Month: February 2021

ลิงมาโมเซ็ทลักษณะทั่วไปมีสีขาวบริเวณด้านข้างของหัว ลำตัวจะมีขนสั้นสีเทาและลายสีเทาเข้ม หางมีสีเทาจางสลับเทาเข้ม ความยาวลำตัวประมาณ 20-25 เซนติเมตร หางยาว 29-35 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 400 กรัมมีถิ่นอาศัยอยู่ป่าเขตร้อนทางภาคตะวันออกของบราซิล กินผลไม้ แมลง ไข่นก รวมทั้งนกขนาดเล็ก พฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ ละประมาณ 3-8 ตัว จะวิ่งและกระโดดไปมาบนต้นไม้ สามารถกระโดดจากกิ่งไม้กิ่งหนึ่งไปยังอีกกิ่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลมากนัก ตอนกลางคืนจะซ่อนตัวในโพรงไม้หรือพุ่มไม้ ลิงมาโมเส็ทธรรมดามีระยะตั้งท้องนาน 142-150 วัน ออกลูกครั้งละ 1-3 ตัว ลิงคอมมอน มาโมเซ็ท ลักษณะ มาร์โมเซ็ทมีขนปกคลุม อ่อนนุ่มคล้ายเส้นไหมมีหลากสีโดยเฉพาะที่ใบหน้าดูคล้ายใส่หน้ากากที่มีสีต่าง แตกต่างกันไปมาร์โมเซ็ทแต่ละชนิดจะมีความโดดเด่นจำเพาะของเคราและหนวดมาร์โมเซ็ทจัดอยู่ในกลุ่มของลิงโลกใหม่ มีขนาดและรูปร่างคล้ายกระรอกมีกรงเล็บครบทุกนิ้ว ยกเว้นหัวแม่เท้าขาหลังใช้ประโยชน์ในการยืดจับกิ่งไม้ขณะหยิบอาหารนิสัย กำหนดอาณาเขตด้วยกลิ่นที่ผลิตจากต่อมที่หน้าอกและท้องน้อยมาร์โมเซ็ทมีการแสดงความหมายสื่อกันออกทางหน้าตาการสืบพันธุ์ จะให้ลูกครั้งละ 3-5 ตัว อายุยืน 7 – 20 ปีิ กินอาหารจำพวกน้ำเกสรดอกไม้ ดอกไม้ น้ำเลี้ยงของต้นไม้ ยากไม้ และสัตว์เล็กๆ เป็นสัตว์สังคมแบบกลุ่มครอบครัวๆ ละ 2 – 13 ตัว […]

เยอรมัน เชฟเฟิร์ดเป็นสุนัขที่เป็นที่นิยมเสมอ จากความฉลาดและฝึกง่ายของสุนัขพันธุ์นี้ เขาค่อนข้างกระตือรือล้น ชอบทำกิจกรรม ดังนั้นจึงต้องการการออกกำลังกายพอประมาณทุกวัน มิฉะนั้นเขาอาจจะเป็นตัวป่วนหรือว่าขี้หงุดหงิดได้ เขาเป็นสุนัขที่สัดส่วนดี ศรีษะกว้างแล้วค่อยแคบลงรับกับส่วนปากที่แหลม หูค่อนใหญ่และตั้งขึ้น หลังลาดระดับและมีกล้ามเนิ้อ หางเป็นพุ่มและโค้งลง ขนหนาและหยาบ อาจมีสีดำ แทน ดำและแทน หรือเทา ขนมีความยาวปานกลาง แต่ก็อาจพบตัวทีมีขนยาวได้ สายพันธุ์นี้มีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 10 – 12 ปี ลักษณะนิสัย: เยอรมัน เชฟเฟิร์ดเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นทีเลี้ยงมาด้วยกันได้ดี  แต่เขามีแนวโน้มที่จะไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าจากสัญชาตญาณของสุนัขอารักขา สายพันธุ์นี้นับได้ว่าฉลาดและฝึกง่าย เยอรมัน เชฟเฟิร์ดบางตัวอาจจะขี้หงุดหงิดและประหม่าได้ และหากไม่ได้รับการฝึกการเข้าสังคมที่ดีหรือการฝึกที่เหมาะสมอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวและอารักขามากเกินไป อาศัยอยู่กับ: เนื่องจากเยอรมัน เชฟเฟิร์ดมีขนาดใหญ่และพลังมาก นอกจากนี้ยังมีสัญชาตญาณของการปกป้อง ควรซื้อสุนัขพันธุ์นี้จากนักผสมพันธุ์ที่เชื่อถือได้ เนื่องจากสุนัขที่สายพันธุ์ไม่ดีมีแนวโน้มที่จะประหม่าได้มาก เยอรมัน เชฟเฟิร์ดควรได้รับการฝึกให้เชื่อฟังและการเข้าสังคมตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าว หรือการอารักขามากเกินไป เขาควรที่จะอยู่กับครอบครัวและค่อยๆพบปะกับคนอื่นและสัตว์อื่นภายใต้การดูแลของเจ้าของ ไม่ควรปล่อยเขาไว้ตามลำพังในบ้านสุนัข หรือสนามหญ้าหรือแม้แต่กับสัตว์ตัวอื่นเพียงลำพัง เขาค่อนข้างกระตือรือล้น ชอบทำกิจกรรม ดังนั้นจึงต้องการการออกกำลังกายพอประมาณทุกวัน มิฉะนั้นเขาอาจจะเป็นตัวป่วนหรือว่าขี้หงุดหงิดได้ สุนัขพันธุ์นี้จะผลัดขนอย่างหนัก ปีละ 2 ครั้ง และในระหว่างปีที่ไม่ใช่ฤดูกาลผลัดขนก็จะมีขนร่วงบ้าง ดังนั้นควรแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ […]

พิทบูล ถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์ของ สุนัขบูลด๊อก เดิมทีเป็นสุนัขอเมริกันพิทบูล ที่ใช้งานต้อนฝูงสัตว์ (Cattie dog) เป็นสุนัขเลี้ยงแกะ (Shepherds) แต่ต่อมา สุนัขเหล่านั้นถูกนำมาผสมข้ามสายพันธุ์ จนเกิดสายพันธุ์ใหม่ จนได้ “อเมริกันพิทบูล” ที่มีฟันและกรามที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ และมีความว่องไวสูง และพิตบูลก็ถูกนำมาใช้ในกีฬาสู้วัว (Bullbaiting) แต่ภายหลังกีฬาชนิดนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย กลุ่มคนที่ชื่นชอบในกีฬาดังกล่าวจึงหันมาจับสุนัขสู้กับสุนัขแทน ทำให้อเมริกันพิทบูลกลายเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อว่ามีพละกำลังมากที่สุด เท่าที่มีการพัฒนาสายพันธุ์กันมา ในความแข็งแรง ดุร้าย เสน่ห์ของพิทบูลอยู่ที่ความจงรักภักดีที่มีต่อเจ้านาย ผู้เลี้ยงน้องหมาต้องมีความมั่นคงทั้งกายและใจ แม้ช่วงนี้กระแสเลี้ยงน้องหมาจะเน้นแนวน่ารัก มุ้งมิ้ง แสนซน อย่างไซบีเรียน บีเกิ้ล คอร์กี้ แต่ก็คงมีหนุ่มๆ และสาวๆ ขาโหดหลายคนอยากเลี้ยงน้องหมาร่างใหญ่ กำยำ ดุดัน อย่างที่ใครเห็นก็ต้องหลบให้เดินก่อน ซึ่งผู้ที่จะเลี้ยงน้องหมาเหล่านี้ได้ ก่อนอื่นเลยก็ต้องรู้ตัวเองว่า ตนมีพละกำลัง มีอำนาจต่อกร และ ต่อรองกับน้องหมาหัวแข็งพวกนี้ ความน่ารักมุ้งมิ้ง อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องหลังจากที่เขายอมรับเราแล้วว่ามีอำนาจเหนือกว่าพวกเขา เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราเผยความอ่อนแอออกมา … นั่นคือจุดจบของการเป็นเจ้านายของเราทันที แล้วน้องหมาก็จะยิ่งแสดงความก้าวร้าวออกมาเพิ่มขึ้นค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า กว่าผู้เลี้ยงจะไปถึงจุดที่สามารถควบคุมพวกเขาได้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีวินัยทั้งต่อตนเอง และต่อน้องหมา … ต้องเป็นเจ้านาย […]

สำหรับทาสหมา ทาสแมว ที่มักจะให้ความสำคัญกับวันต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น วันกอดหมา วันกอดแมว วันแมวดำ และอีกมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ วันแต่งตัวให้สัตว์เลี้ยง (Dress Up Your Pet Day) ที่จัดขึ้นเพื่อให้เจ้าของทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกับน้องหมา น้องแมว จับแต่งตัวสวย ๆ และพาไปเดินเล่นชิล ๆ หรือถ่ายรูปลงโซเชียลเก๋ ๆ ซึ่งในวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวันสำคัญวันนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

หากพูดถึง นกกรงหัวจุก บางท่านอาจจะยังไม่รู้จักมากเท่าไหร่ ซึ่งนกกรงหัวจุกเป็นนกที่ได้รับความนิยมมากทางภาคใต้ของประเทศไทย ลักษณะที่นิยมเลี้ยงต้องแก้มแดง หงอนสูงโค้ง ก้นแดง ร้องเสียงไพเราะ และด้วยเสียงร้องอันไพเราะเสนาะหูของนกกรงหัวจุกนี้ มันยังถูกนำมาแข่งขันประชันเสียงร้อง ลีลาสำนวนเสียง ว่านกของใครจะเหนือกว่ากัน ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนกกรงหัวจุกให้มากขึ้นกันค่ะ วิธีเลี้ยงนกกรงหัวจุก ต้องหมั่นดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อได้นกมาใหม่ๆ ต้องคอยหาอาหารที่ใกล้เคียงธรรมชาติให้เขากิน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ หรือตัวหนอน หมั่นเปลี่ยนอาหารและน้ำอย่างสม่ำเสมอ สถานที่ต้องเหมาะสม มิให้สัตว์อื่น หรือแม้กระทั่งบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องมารบกวน พยายามอยู่ในที่เงียบสักหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้นกปรับสภาพ ถ้าเป็นไปได้ให้นกเชื่องอยู่กับผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว รวมถึงนำนกไปแขวนไว้ที่โล่งแจ้งเพื่อให้ถูกแสงแดดในช่วงเช้าและเย็น เพื่อทำลายเชื้อโรคจำพวกรา ลิ้นไร ซึ่งอาจอยู่ตามซอกซี่กรง เป็นการรักษาให้นกมีสุขภาพดี ทั้งนี้ยกเว้นช่วงกลางวันที่แดดจัด และไม่ควรให้ถูกแสงแดดมากๆ เกิน 2 ชั่วโมง ในช่วงหน้าร้อนควรหาภาชนะใส่น้ำให้นกได้อาบชำระตัวและขนให้สะอาด นกชนิดนี้ค่อนข้างรักษาความสะอาดของตัวเอง ควรให้นกอาบน้ำในช่วงบ่าย และนำนกไปผึ่งในที่แจ้งที่มีแสงแดดส่อง นกจะทำความสะอาดตัวเอง จากนั้นจึงเอานกเข้าร่มเพื่อพักผ่อน

สุนัขพันธุ๋ชิสุเป็นสุนัขที่อยู่ในตระกูลรอยัลไชนีส (Royal Chinese) ที่ได้ถูกขยายพันธุ์และเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์มาตั้งแต่ต้น ขณะที่พวกมันดูสูงส่งและบอบบาง จริงๆ แล้วพวกมันเป็นสุนัขร่าเริงมาก พวกมันเต็มเปี่ยมด้วยพลังและตลกด้วย ซึ่งสามารถเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวได้ดี ในการรับสุนัขชิสุเข้ามาเลี้ยงและให้มันเติบโตในครอบครัว คุณอาจจะต้องดูแลเรื่องเส้นขน พฤติกรรม และสุขภาพอื่นๆ ของมัน 1อาบน้ำให้สุนัขชิสุและแปรงขนให้มัน. คุณควรจะต้องอาบน้ำให้สุนัข 1 ครั้งต่อสัปดาห์ แปรงหรือหวีขนมันด้วยอย่างน้อย 1 ครั้งทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้ขนพันกันยุ่ง ชิสุนั้นมีขนที่จะไม่หลุดผลัดไปเอง ซึ่งก็เหมือนกับเส้นผมมนุษย์ ขนของสุนัขชิสุนั้นต้องการการดูแล มิฉะนั้นจะพันกันเป็นปมได้ ให้เน้นที่ขนรอบดวงตาของสุนัข ถ้าคุณปล่อยให้มันมีผมยาว คุณจะต้องมัดขนที่อยู่รอบดวงตาขึ้นไป นี่จะช่วยไม่ให้ผมระตาและไม่ให้จุ่มลงไปชามน้ำและอาหาร 2.เล็มขนสุนัขอย่างเป็นประจำ. เพราะว่าขนของสุนัขชิสุไม่หลุดผลัดไปเอง ขนของมันจึงสามารถยาวได้มากๆ ให้ใช้เวลาตัดหรือเล็มขนของชิสุเพื่อที่มันจะไม่ยุ่งเหยิงจนควบคุมไม่ได้ ถ้าคุณไม่ได้จะนำสุนัขชิสุไปแสดงอะไร ให้ตัดขนมันให้สั้นเป็นทรง “ลูกสุนัข” แทนการไว้ยาวแบบคลาสสิก เพื่อจะได้ดูแลได้ง่าย ให้เน้นไปที่ขนรอบดวงตาของสุนัขแต่ก็ระวังเมื่อใช้กรรไกรตรงบริเวณนั้น! เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเล็มขนรอบดวงตาเพื่อที่ดวงตาของสุนัขจะได้สะอาดและมันจะได้มองเห็นได้ แต่มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมให้สุนัขอยู่นิ่งๆ ขอให้ใจเย็นๆ และระวัง คุณอาจจะต้องหาผู้ช่วยที่จะจับสุนัขให้นิ่ง 3.พาสุนัขชิสุไปให้ช่างตัดแต่งขนผู้เชี่ยวชาญถ้าคุณไม่สามารถดูแลตัดแต่งขนให้มันเองได้. สุนัขชิสุจะต้องตัดขนอย่างน้อย ทุกๆ 2 หรือ 3 สัปดาห์เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด ถ้าคุณจะตัดขนชิสุเองแต่ไม่สามารถทำได้ทุกๆ อาทิตย์ ให้ลองพาสุนัขไปให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นบางครั้งก็ได้

ถ้าพูดถึงสัตว์เลี้ยง สัตว์ชนิดแรกๆที่เราจะนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นหมาแมว อะไรประมาณนี้ แต่ในสมัยนี้ การเลี้ยงสัตว์แปลกๆ เป็นที่นิยมมากขึ้น เช่น แมงมุม กิ้งก่า ชูก้าไรเดอร์ หรือแม้กระทั่ง งู เป็นต้น และวันนี้เราจะมาพูดถึง งู พันธุ์สำหรับเลี้ยง ที่เป็น งูพันธุ์สวยงาม ไม่มีพิษ และยังเชื่องอีกด้วยนะ ไปดูกันว่าจะมีพันธุ์ไหนบ้าง 1. Rainbow Boa มุมมองนี้จากปากของคนรัก ของเขตร้อน และสัตว์ประหลาดต่าง ๆ ดูเหมือนจะเป็น aboma ในภาษาละติน Epicrates cenchria เป็นงูชนิดหนึ่งที่ไม่มีพิษ อยู่ในกลุ่มของ boas เรียบเนียน งูเหลือมนี้เป็นงูเท่านั้น ที่อาศัยอยู่ในทวีป รวมอยู่ในสกุล Epicrates ซึ่งรวมถึงสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิดและรุ้งเป็นหนึ่งในตัวแทน ความยาวของงูอยู่ที่ 2 เมตร ความแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ อยู่ในเกล็ดของขนาดค่อนข้างใหญ่กระจายทั่วถึงรอบดวงตาของงูเหลือม สีสัตว์เลื้อยคลานมักทำในสีน้ำตาลหรือสีแดงเข้ม บนตาชั่ง มีจุดสีขนาดใหญ่ เส้นของแต่ละจุดคือวงแหวนสีเข้ม ด้านของงูเหลือมมีสีเข้ม และเล็กกว่ามากที่พวกเขาคุณสามารถเห็นแถบสว่าง ท้องเป็นกลุ่มของจุดด่างดำ […]

แมวแซมเสวตรเป็นแมวไทย 1ใน17ชนิด ที่มีบันทึกอยู่ในตำราสมุดข่อยโบราณอายุไม่ต่ำกว่า200ปี ความเก่าแก่ของตำราสามารถอ้างอิงได้ถึงยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็ได้มีการเขียนตำราแมวขึ้นอีกหลายฉบับ และแมวแซมเสวตรก็ถูกอ้างอิงอยู่ในตำราทุกๆฉบับ แต่บทความและการวาดรูปจะแตกต่างออกไปอีกหลายลักษณะ เป็นที่ทราบกันดีว่าแมวไทยในตำราโบราณมี17ชนิด แต่เราเหลือเพียง4ชนิด คือ 1.แมววิเชียรมาศ 2.แมวโกนจา 3.แมวมาเลศหรือแมวสีสวาด 4.แมวศุภลักษณ์ และสูญหาไป13ชนิด ซึ่งรวมแมวแซมเสวตรอยู่ใน13ชนิดนั้นด้วย แมวแซมเสวตรเป็นแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่เคยคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว และมีโครงการตามหาอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อได้แมวแซมเสวตรมากลับมีปัญหาอยู่2ส่วนใหญ่ๆ คือ 1.แมวแซมเสวตรบางตัวมีขนสีขาวแซมน้อยบ้าง มากบ้าง ทำไมจึงเป็นแบบนั้น เราจะตัดสินได้อย่างไรว่าตัวไหนคือแมวแซมเสวตรแท้หรือแซมเสวตรเทียม มีคนเข้ามาถามเยอะมาก ว่าแบบไหนคือแซมเสวตรแท้ แมวดำบางตัวก็มีขนขาวแซมเป็นหย่อมๆ แบบนี้จะใช่แซมเสวตรหรือเปล่า หรือในแมวบางชนิดก็มีขนแซม 2.แมวแซมเสวตรเกือบทุกตัวเมื่อกาลเวลาผ่านไปขนสีขาวก็กลับกลายมาเป็นสีดำหมดจนหมด แทบดูไม่ออกว่ามันเคยเป็นแมวแซมเสวตร ใช่แล้วอ่านไม่ผิด แมวแซมเสวตรทุกตัวเมื่อกาลเวลาผ่านไปสัก4-6เดือน ขนมันกลับกลายเป็นสีดำหมดเหมือนแมวดำโกนจาดังนั้นการตามหาแมวแซมเสวตรที่ว่าหายากแล้ว ความงงที่ว่าขนขาวกลายเป็นสีดำชวนงงสะยิ่งกว่า ในช่วงนั้นยังไม่มีโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เสียด้วย ทุกอย่างมีแต่ความเงิบกับเงิบ เมื่อแมวแซมเสวตรกลับมาขนดำ ก็ต้องหาแมวแซมเสวตรตัวใหม่ต่อไปเรื่อยๆไม่มีจบสิ้น

เมื่อพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่นิยมตลอดกาล คงหนีไม่พ้น แมว แต่วันนี้เราจะพาท่านมารู้จักกับ แมวโคราช หรือ แมวสีสวาด เป็นแมวที่พบในประเทศไทยแต่ไม่ปรากฎถิ่นกำเนิดที่ชัดเจน ในอดีตไม่นิยมซื้อขายแต่นิยมให้เป็นของขวัญแก่กัน เพราะเชื่อกันว่าจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา แมวสีสวาดจึงถือเป็น 1 ในแมวมงคลของไทยมาแต่ครั้งโบราณ และยังปรากฏในตำราแมวมงคลในสมุดข่อยโบราณอายุกว่า 600 ปี อีกด้วย แมวสีสวาดปรากฏออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2502 เมื่อสองสามี ภรรยาชาวอเมริกัน เกษียรอายุจากการทำงานในไทยและได้รับ แมวสีสวาด 2 ตัวชื่อ “นารา” และ “ดารา” เป็นของขวัญ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีแมวสีสวาดจำนวนมากถูกส่งมาจากประเทศไทยจนได้รับฉายาว่า “แมวสีเงินอมฟ้าผู้ถือหนังสือเดินทางไทย” แมวสีสวาดได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ มีการจัดประกวดขึ้นบ่อยครั้งและยังมีการจัดตั้งมาตรฐานสายพันธุ์ของแมวสีสวาดขึ้นในปี 2508 อีกด้วย ค่อนข้างน่าเสียดายที่ปัจจุบันแมวสีสวาดค่อนข้างหาได้ยากมากในไทยทั้งที่เป็นประเทศต้นกำเนิด ลักษณะทางกายภาพ แมวสีสวาดจัดเป็นแมวขนาดกลางมีหางยาวเรียว ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ 8-10 ปอนด์ ในขณะที่ตัวเมียจะอยู่ที่ 6-8 ปอนด์ หนึ่งในคุณสมบัติอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งโลกคือ นัยตาสีเขียว สดใส ดูกว้างและกลมโตน่าดึงดูดคล้ายต้นอ่อนของพืชในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมีคำกล่าวว่า สีเขียวนั้นหมายถึงพืชผลที่เจริญงอกงาม แมวสีสวาดเป็นแมวขนสั้นที่มีสีน้ำเงินเข้มและมีประกายเงินแซม ซึ่งประกายนี้จะชัดเจนมากยิ่งขึ้นในแมวสีสวาดที่มีอายุ 2 ปี […]

ปลาคราฟ จัดว่าเป็นปลาที่ได้รับความนิยมจากผู้เลี้ยงปลาสวยงามมานาน เนื่องจากเป็นปลาที่มีความเชื่อง เลี้ยงง่าย สวยงาม และยังเป็นที่ต้องการของผู้เลี้ยงปลาสวยงามทั้งในและนอกประเทศ มีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว เอาล่ะค่ะ สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากจะเลี้ยงปลาคราฟ • การเลือกซื้อปลาคราฟ การที่เราจะหาปลาปลาคราฟมาเลี้ยง ควรมองหาลูกปลาที่มีอายุ 1-2 ปี มาเลี้ยง ไม่ควรนำปลาคราฟขนาดใหญ่มาเลี้ยง และไม่ควรนำปลาชนิดอื่นมาเลี้ยงรวมกันกับปลาคราฟ เพราะอาจนำเชื้อโรคมาให้ปลาคราฟได้ • ขนาดของพื้นที่ที่จะใช้เลี้ยงปลา ผู้เลี้ยงที่ตัดสินใจจะเลี้ยงปลาคราฟ ควรเริ่มต้นด้วยการขุดบ่อขนาด 80×120 ลึก 50 เซนติเมตร มีสะดือที่ก้นบ่อขนาด 1×2 ฟุต ลึกประมาณ 4-6 นิ้ว เพื่อไว้เป็นที่เก็บขี้ปลาและสิ่งสกปรก รวมถึงติดตั้งระบบถ่ายเทน้ำเสีย เพื่อช่วยให้น้ำในบ่อสะอาดอยู่ตลอดเวลา สำหรับบ่อที่จะใช้เลี้ยงปลาคาร์ฟควรเป็นบ่อซีเมนต์ เพราะสามารถดัดแปลงเป็นบ่อธรรมชาติได้ง่าย มีตะไคร่น้ำเกิดและเกาะได้เร็ว ซึ่งตะใคร่น้ำนั้นจะเป็นอาหารที่ดีของปลา สามารถดูดสิ่งสกปรก และแอมโมเนียที่อยู่ในน้ำได้อีกด้วย บ่อควรจะตั้งอยู่ในที่ที่มีร่มเงาต้นไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่นพอสมควร อย่าให้อยู่กลางแจ้ง เพราะจะทำให้ปลามีสีสันจืดจางลง และยังโตช้าลงด้วย • การให้อาหาร ผู้เลี้ยงควรให้อาหารไม่เกินวันละ 2 เวลา คือ เช้ากับเย็น […]