Tag: แมวน่ารัก

6 พันธุ์แมวยักษ์ที่มีขนาดตัวโต๊โต แต่นิสัยอ่อนโยน ให้คุณได้กอดแบบเต็มไม้เต็มมือ
การทำหมันให้แมวไม่เพียงแต่จะหยุดการขยายพันธุ์ที่เกินการควบคุม แต่ยังทำให้แมวตัวอ้วนขึ้นด้วย ทีนี้แหละ จะได้กอดพวกมันแบบเต็มไม้เต็มมือสักที แต่จริงๆ แล้ว มีแมวบางสายพันธุ์ที่ตัวใหญ่โดยธรรมชาติ นี่ไม่ได้หมายถึงเสือ สิงโต หรือสัตว์ป่าน่ากลัวนะ แต่หมายถึงแมวจริงๆ นี่แหละ จะมีพันธุ์ไหนบ้าง ไปดูกัน 1. แมวซาวันนา แมวซาวันนาเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและแพงที่สุดในปัจจุบัน เมื่อตัวโตเต็มวัย พวกมันสามารถชั่งน้ำหนักได้ถึง 9 กิโลกรัม แม้ว่าบรรพบุรุษของแมวพันธุ์นี้จะเป็นสัตว์ป่า แต่พวกมันรักสงบ เป็นมิตร แถมยังฉลาดอีกด้วย 2. แมวป่านอร์เวย์ แมวป่านอร์เวย์เป็นแมวชนิดเดียวที่สามารถปีนลงด้วยหัวก่อน พวกมันสามารถอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ได้ดี นอกจากนี้พวกมันยังน่ารักและมีขนาดตัวที่น่ากอดมากๆ เมื่อโตเต็มวัย ตัวผู้จะหนัก 6 กิโลกรัม ในขณะที่ตัวเมียจะมีน้ำหนักเบากว่าตัวผู้เล็กน้อย แต่หากคุณจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ คุณต้องรู้ว่ามันมีนิสัยชอบล่า ดังนั้น ต้องเปิดโอกาสให้มันได้ใช้ชีวิตแบบแอคทีฟ 3. เมนคูน เมนคูนเป็นแมวขนาดใหญ่ที่พบในสหรัฐอเมริกา ตัวผู้น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 4-7 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียอยู่ที่ 3-5 กิโลกรัม พวกมันมีความยาวของลำตัวได้สูงสุดถึง 97 เซนติเมตร และมักดูคล้ายแมวป่าชนิดหนึ่ง เมนคูนไม่เหมือนแมวทั่วไป เพราะพวกมันชอบว่ายน้ำ ดังนั้น […]

อเมริกันเคิร์ล (American curl cat)
ว่าด้วยเรื่องแมวสายพันธุ์อเมริกันเคิร์ล (American curl cat) หรือแมวที่มีลักษณะหูพลิกม้วนนั้น ตามชื่อคำว่า curl ที่แปลว่าพลิกม้วน มีเพื่อนสงสัยเรื่องหูของแมวพันธุ์นี้หลายคนมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน,คนที่ทำงาน และคนรู้จัก ส่วนใหญ่มักจะถามว่าเรา “เอาแมวไปผ่าตัดหูมาหรอ หูมันถึงเป็นแบบนั้น” ?? เราก็ตอบไปว่า “ไม่ใช่ หูมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว มันเป็นสายพันธุ์ของมัน” ในประเทศไทย คนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้จักแมวสายพันธุ์นี้ เพราะยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนแมวเปอร์เซีย และแมวสก็อตติชโฟร์ด และอีกอย่างราคาค่อนข้างสูงด้วย คนที่เลี้ยงพันธุ์อเมริกันเคิร์ลขายก็มีจำกัด แต่เราเป็นผู้เลี้ยงและผู้เพาะพันธุ์ที่หลงเสน่ห์ในความเป็นอเมริกันเคิร์ล ที่เริ่มต้นในการตัดสินใจเลี้ยงพันธุ์อเมริกันเคิร์ลนั้น เพราะมีความรู้สึกชอบที่หูแปลกพลิกม้วนผิดรูป และนิสัยของแมวที่ขี้อ้อน เสียงเบา เลี้ยงง่าย เพราะตั้งแต่เอาแมวพันธุ์นี้มาเลี้ยงจนกระทั้งแมวตั้งท้องและคลอดลูก มีความรู้สึกว่าแมวไม่เคยป่วยและคลอดลูกง่าย ทั้งนีเป็นความชอบส่วนตัวของผู้เลี้ยงล้วน ค่ะ และอีกเรื่องคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าแมวพันธุ์อเมริกันเคิร์ลเป็นยีนส์ด้อยเหมือนแมวพันธุ์สก็อตติชโฟร์ดหูพับ เพราะหูที่ผิดรูปของมัน แต่ผิดค่ะ แมวพันธุ์อเมริกันเคิร์ลเป็นแมวที่มียีนส์เด่น แมวสายพันธุ์นี้มีหูที่พลิกม้วนมาตั้งแต่กำเนิด ช่วงคลอดมา 1-4 วันแรก เรายังเห็นว่าหูของลูกแมวยังบิดม้วนไม่ชัด จะเห็นได้ชัดว่าหูบิดม้วนตอน 5-10 วัน แต่จะชัดมากชัดน้อยขึ้นอยู่ที่พันธุกรรมและสภาพแวดล้อม **ต้นกำเนิดของแมวพันธุ์อเมริกันเคิร์ลมาจาก ชุมชนเลควูด มลรัฐแคริฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Joe และ […]

แมวพันธุ์เซลเกิร์ก เรกซ์ (Selkirk Rex)
พารู้จักกับความน่ารักของแมว “เซลเกิร์ก เรกซ์” ที่มีขนหยิกเป็นเอกลักษณ์คล้ายพุดเดิ้ล แมวก็เป็นสัตว์เลี้ยงมีลักษณะสายพันธุ์ที่หลากหลายไม่ได้น้อยหน้าเหล่าสุนัขเลย และแม้เราจะเคยเห็นแมวมามากหน้าหลายตาแล้วแต่สุดท้าย มันก็ยังมีสายพันธุ์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อนอยู่ดี แมวพันธุ์เซลเกิร์ก เรกซ์ (Selkirk Rex) ก็เป็นน้องแมวอีกสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์ในความโดดเด่นของตนเอง โดยพวกเค้ามักจะมีลักษณะขนที่หยิกไปทั่วทั้งร่างกาย และต้นกำเนิดของพวกเค้าก็เพิ่งเริ่มเมื่อ 30 ปีก่อนเท่านั้นเอง ก่อนที่จะเกิดเป็นความน่ารักอย่างที่เพื่อนๆกำลังจะได้เห็น นี่คือรูปร่างของแมวพันธุ์เซลเกิร์ก เรกซ์ ที่กล่าวมาข้างต้น หากสังเกตดูจะเห็นชัดเจนว่าขนของน้องมีความหยิกอยู่ในระดับที่สูงมาก จนไม่นึกว่าแมวสามารถมีขนหยิกได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ แต่เห็นท่าทางแบบนี้ จริงๆพวกเค้าเป็นแมวที่สดใสร่าเริงมาก แถมไม่ชอบใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังอีกต่างหาก ดังนั้นใครคิดจะเลี้ยงพวกเค้าต้องเอาใจให้ดีเลยล่ะอ้อนเก่งสุดๆ เอาเรื่องเลย เมื่อเจ้าเซลเกิร์ก เรกซ์ สองตัวมาอยู่ด้วยกัน ก็จะเกิดเป็นความน่ารักในระดับคูณสอง ที่แค่เห็นก็ชวนเอาใจละลายไปเลย ด้วยลักษณะขนที่หยิกกว่าปกติของพวกมัน ทำให้หลายคนเปรียบเปรยไว้ว่า เค้ามีขนที่มีลักษณะคล้ายกับสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล ส่วนจุดเริ่มต้นสายพันธุ์เกิดจากนักเพาะพันธุ์แมวเปอร์เซียที่อยู่อาศัยในเมืองลิฟวิงตัน รัฐมอนทานา โดยชื่อของคนที่เพาะสำเร็จก็คือคุณ Jeri Newman ในปี 1987 ซึ่งกว่าจะได้รับการยอมรับจากสมาคมที่ดูแลเรื่องสายพันธุ์ของแมว เวลาก็ล่วงเลยไปถึงปี 1990 หลังจากนั้นเหล่าเจ้าแมวขนหยิกอย่างเซลเกิร์ก เรกซ์ ก็เริ่มโด่งดังไปทั่วโลก จากลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และพวกเค้าก็ส่งต่อความงดงามนั้นมาจวบจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

แบมบิโน (Bambino)
พบกันอีกเช่นเคยทุกวันอาทิตย์กับ “วาไรตี้สัตว์เลี้ยง” สำหรับสัปดาห์นี้ ทาง “ทีมงานวาไรตี้สัตว์เลี้ยง” จะพาทุกท่านไปรู้จักกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “แมว” เจ้าเพื่อนสี่ขาแสนป่วน ที่ผูกพันกับมนุษย์มายาวนาน ที่สำคัญคือทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างหลงใหลเป็นอย่างมากจันทร์ที่ 12 กันยายน 2559 เวลา 07.01 น. พบกันอีกเช่นเคยทุกวันอาทิตย์กับ “วาไรตี้สัตว์เลี้ยง” สำหรับสัปดาห์นี้ ทาง “ทีมงานวาไรตี้สัตว์เลี้ยง” จะพาทุกท่านไปรู้จักกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “แมว” เจ้าเพื่อนสี่ขาแสนป่วน ที่ผูกพันกับมนุษย์มายาวนาน ที่สำคัญคือทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างหลงใหลเป็นอย่างมาก วันนี้ทางทีมงานจะพาผู้อ่านไปรู้จักแมวสายพันธุ์ “แบมบิโน่ (Bambino)” และไปพูดคุยกับ คุณเอิบบุญ บุลสุข หรือ คุณแก้ว เจ้าของฟาร์ม Siam Felis Cattery คุณแก้ว เล่าให้ทางทีมงานวาไรตี้สัตว์เลี้ยงฟังว่า แบมบิโน่ (Bambino) เป็นแมวสายพันธุ์ใหม่ ที่มีการผสมข้ามสายพันธ์ุระหว่างแมวพันธ์ุมันช์กิ้น และสฟิงค์ โดยคุณแพทและสเตฟานี่ออสบอร์น จากฟาร์มโฮลี่โมลี่ รัฐอาร์คันซอสหรัฐอเมริกา โดยแมวแบมบิโน่ตัวแรกได้ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 2005 […]

“Selkirk Rex” แมวกลายพันธุ์ จนถูกเรียกว่า “แมวพุดเดิ้ล”
ระหว่างหมากับแมวนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและลักษณะนิสัย จนแทบหาความเหมือนของสัตว์ 2 ชนิดนี้ไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม Selkirk Rex เป็นสายพันธุ์แมวที่ทำให้ผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกมันอาจจะเป็นลูกผสมระหว่างหมาพุดเดิ้ลกับแมว เพราะมันมีขนหยิกเหมือนพุดเดิ้ลไม่มีผิด จริงๆ แล้ว แมวพันธุ์ Selkirk Rex เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นาน โดยตัวแรกที่พบนั้น เป็นแมวที่เกิดในศูนย์พักพิงสัตว์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเทือกเขา Selkirk Mountains รัฐไวโอมิง เมื่อปี 1987 ตามรายงานบอกว่าการที่ Selkirk Rex มีขนหยิกนั้น เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม ซึ่งหลังจากการทดสอบโดยละเอียดพบว่า มันเป็นยีนเด่นที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ปัจจุบัน Selkirk Rex ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากใน สหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้เรียกแมวสายพันธุ์นี้ว่า แมวแกะ Selkirk Rex เป็นแมวที่มักจะตื่นตัวเสมอ มีความกระตือรือร้น และมีนิสัยน่ารัก พวกมันไม่ต่างจากแมวพันธุ์อื่นๆ ที่ชอบนั่งตักมนุษย์ รักการกอด ขี้เล่น และเป็นสมาชิกที่ยอดเยี่ยมของครอบครัว ทั้งนี้การมีขนหยิกนั้น มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่สูงมากเป็นพิเศษ พวกมันต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ต้องแปรงขนให้อย่างอ่อนโยนทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ขนของพวกมันจับกันเป็นก้อนหรือพันกัน ดูหนังชนโรง ด้วยความน่ารักที่ไม่เหมือนใครนี้ จึงไม่แปลกว่าทำไมจึงมีทาสแมวแกะจำนวนมากทั่วโลก เหมียวเองก็ตกหลุมรักพวกมันแล้วเหมือนกัน

สกอตติชโฟลด์ (Scottish Fold)
ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ สกอตติช โฟลด์ ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสก็อตแลนด์ จากคนเลี้ยงแกะที่ชื่อนาย “วิลเลี่ยม รอส” ในปีค.ศ. 1961 โดยนายวิลเลี่ยมพบแมวตัวหนึ่งในโรงนาของเพื่อนบ้านที่มีลักษณะหูพับและมีสีขาวทั้งตัวโดยบังเอิญ ซึ่งแมวตัวนี้เป็นของเพื่อนบ้านของเขาที่ชื่อว่า “ซูซี่” นายวิลเลี่ยมสนใจซูซี่เป็นอย่างมาก เมื่อซูซี่ได้ให้กำเนิดลูกแมวน้อยที่มีลักษณะหูพับเหมือนกัน นายวิลเลี่ยมจึงขอซื้อจากเจ้าของ แล้วนำมาเลี้ยงที่บ้าน โดยตั้งชื่อแมวที่เป็นลูกของซูซี่นี้ว่า “สนู๊กส์” เมื่อโตขึ้นนายวิลเลี่ยมจึงนำมาผสมพันธุ์กับสายพันธุ์ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ จากนั้นก็เริ่มมีคนสนใจนำแมวที่มีลักษณะหูพับนี้ไปปรับปรุงพันธุ์ จนกระทั่งในปี 1966 ก็ได้มีการตั้งชื่อแมวหูพับนี้ว่า สกอตติช โฟลด์ เพื่อเป็นเกียรติให้กับสถานที่ที่กำเนิดแมวสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในแมวที่มีคนนิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลกอีกด้วย ลักษณะทางกายภาพ สกอตติช โฟลด์ เป็นแมวขนาดกลาง รูปร่างกะทัดรัด รูปร่างกลม เพศเมียมีน้ำหนักอยู่ราว 2.5-4 กิโลกรัม ในขณะที่เพศผู้มีน้ำหนักได้ถึง 5.8 กิโลกรัม มีจุดเด่นที่ใบหูพับลงไปข้างหน้า และพับลงต่ำ อีกทั้งขนาดของใบหูมีขนาดค่อนข้างเล็ก มีดวงตาที่กลมโตคล้ายนกฮูก หัวค่อนข้างกลม ช่วงคอสั้น และมีจมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของ Smiling […]

เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ (Exotic Shorthair)
ประวัติสายพันธุ์ แมวพันธุ์ เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ จัดอยู่ในประเภทแมวขนสั้น ที่มีต้นกำเนิดตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ. 1950 โดยนักผสมพันธุ์สัตว์ (Fancier) ได้ทำการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวพันธุ์แท้ของอเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair) กับแมวพันธุ์เปอร์เซีย (Persians) เพื่อปรับปรุงลักษณะโครงสร้างพื้นฐานของร่างกาย และเพื่อให้สีขนมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยนักผสมพันธุ์สัตว์ได้นำสีขนสีเงินของแมวพันธุ์เปอร์เซียเข้าไปผสมกับสีขนของแมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์ และในช่วงแรกของการผสมนี้ แมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ ยังไม่เป็นที่ยอมรับ และยังไม่เป็นนิยมจากผู้คนส่วนมาก ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่กล่าวถึง และเริ่มจางหายออกไปจากประวัติสายพันธุ์แมว ในปี ค.ศ. 1967 แมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ ได้กลับมาเป็นที่ยอมรับและนิยมอีกครั้ง เนื่องจากสมาคม The Cat Fanciers Association ในสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้แมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ชนะเลิศในการประกวดสายพันธุ์แมวจากแมวทุกสายพันธุ์ นอกจากนี้สมาคมยังได้ทำการเพิ่มแมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ว่า เป็นแมวที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ของแมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์และแมวพันธุ์เปอร์เซีย ในปี ค.ศ. 1979 สมาคม The International Cat Association (TICA) ได้มีการขึ้นทะเบียนแมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก […]

คาราคัล Caracal
ลักษณะทั่วไป คำว่า “คาราคัล” มาจากคำว่า “karakulak” ในภาษาตุรกี แปลว่า หูดำ ซึ่งเป็นจุดเด่นของแมวชนิดนี้ นอกจากดำแล้วหูยังใหญ่เรียว และมีขนปลายหูยาวชี้ออกไปถึงสองนิ้วอันเป็นลักษณะเด่นที่สุดของแมวชนิดนี้ คาดว่าขนหูที่ยาวนี้ใช้ประโยชน์ในการสื่อสาร หลังหูสีดำ ข้างปากมีจุดสีเข้ม เหนือตาสีดำ มีเส้นสีดำพาดจากตามาถึงจมูก ขนตามลำตัวสั้นเกรียนและแน่น สีน้ำตาลอ่อนจนถึงสีแดงอิฐ ขนบริเวณใต้ท้องยาวและซีดกว่าบริเวณอื่น ตาโต สีเหลืองน้ำตาล ลำตัวยาว 60-95 เซนติเมตร หางยาวราวหนึ่งในสามของความยาวลำตัว รอบตาขาว คางขาว ตัวผู้น้ำหนัก 10-18 กิโลกรัม ตัวเมียหนักได้ถึง 16 กิโลกรัม (เฉลี่ย 10 กิโลกรัม) เป็นแมวที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา คาราคัลมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษอีกชื่อว่า desert lynx แปลว่า ลิงซ์ทะเลทราย แต่รูปร่างไม่เหมือนลิงซ์เลย คาราคัลมีขายาว ลำตัวเพรียว หางยาวกว่าลิงซ์และปลายเรียว ขนแก้มของคาราคัลก็ไม่ยาวอย่างลิงซ์ สิ่งที่คล้ายกันอาจมีเพียงอย่างเดียวคือขนปลายหูที่ยาวเท่านั้น มีรายงานพบคาราคัลดำบ้างเหมือนกันแต่มีไม่มาก ในอินเดีย เคยมีการเลี้ยงและฝึกคาราคัลไว้เพื่อล่าสัตว์ให้ชนสังคมชั้นสูงเช่นเดียวกับชีตาห์ คาราคัลในแถบนี้ตัวเล็กกว่าพวกที่อยู่ในพื้นที่กึ่งซาฮาราในแอฟริกา และตัวที่อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งกว่าก็มีสีขนจางกว่า ส่วนคาราคัลในแถบเติร์กเมนิสถานมีขนขึ้นเป็นกระจุกที่อุ้งตีนแบบเดียวกับแมวทราย ในตอนกลางของอิสราเอลพบว่ามีประชากรที่เป็นคาราคัลดำอยู่ราว 5-10 เปอร์เซ็นต์ คาราคัลแบบพิเศษนี้มีสีแรกเกิดเกือบดำสนิท แต่เมื่อโตขึ้นจะเป็นสีเทา น้ำหนักเฉลี่ยของคาราคัลตัวผู้ในอิสราเอลราว 9.8 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียราว 6.2 กิโลกรัม อังกฤษ caracal, desert lynx, african lynx ฝรั่งเศส caracal เยอรมัน caracal, Wüstenluchs สเปน caracal, lince africano แอฟริกันส์ (แอฟริกาใต้) rooikat, lynx อัมฮารา (เอธิโอเปีย) ambassa ชาด guétté anasa เฮาซา (Sahel) messo คิสวาฮีลี simbamangu ลัว (เคนยา, อูกันดา) mwai โซซา (แอฟริกาใต้) ngada เดอเบเล (ซิมบับเว) indabutshe, intwane โอวัมโบ (นามิเบีย) ayuku ซาฟันดู (Peul/Foulbé) เซตสวานา (บอตสวานา) thwane โชนา (ซิมบับเว) hwang, twana โซมาเลีย gedudene, maharra อาหรับ ajal, anaq al ardh, washag เบอร์เบอร์ (แอลจีเรีย) warsal, bousboela, mousch, nouadhrar, aousak ดารี (อัฟกานิสถาน) psk qarh qol คุตชี (India) harnotro [นักฆ่าแบล็กบัก] ฟาร์ซี caracal รัสเซีย karakal ซาอุดีอาระเบีย itfah ตุรกี karakulak, step vasagi […]

คอดคอด
ลักษณะทั่วไป คอดคอดเป็นแมวป่าที่ตัวเล็กที่สุดในทวีปอเมริกา และเป็นแมวที่เล็กที่สุดชนิดหนึ่งของโลก มีขนาดใกล้เคียงกับแมวตีนดำและแมวจุดสีสนิม ความยาวลำตัว 50 เซนติเมตร หนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ลักษณะทั่วไปคล้ายแมวชอฟรัว ซึ่งมีเขตกระจายพันธุ์ร่วมกัน แต่ตัวเล็กกว่า หัวเล็กกว่า และหางฟูกว่า นักวิทยาศาสตร์บางคนจัดว่าคอดคอดเป็นเพียงชนิดย่อยหนึ่งของแมวชอฟรัวเท่านั้น คนท้องถิ่นเรียกว่า กวีนยา (Guigna) ซึ่งมีความหมายว่า แมวภูเขา ส่วนคำว่า คอดคอดอาจมาจากภาษาอินเดียนแดงเผ่นมาปูเช บางคนสันนิษฐานว่าชื่อนี้เคยใช้เรียกแมวปัมปัสมาก่อน ซึ่งชื่อชนิดของแมวปัมปัสคือ colocolo อาจกร่อนมาจากคำว่าคอดคอดก็ได้ คอดคอดมีสีพื้นแตกต่างกันได้หลายสี ตั้งแต่เทาอ่อน เทาอมน้ำตาล สีเนื้อ หรือสีน้ำตาลไหม้ มีจุดกลมสีดำ มีเส้นสีดำพาดคอและกระหม่อม ใต้ลำตัวสีซีด หัวเล็ก มีเส้นเหนือหัวและที่แก้มแต่ไม่เด่นชัดนัก รอบตาสีขาว หูค่อนข้างใหญ่และกลม หลังใบหูขอบสีดำมีแต้มขาวตรงกลาง ขาสั้น อุ้งตีนใหญ่ ฝ่าตีนสีดำ หางฟูมากแต่สั้น ความยาวหางประมาณหนึ่งในสามของความยาวหัว-ลำตัว มีปล้องสีดำประมาณ 10-12 ปล้อง ปลายหางดำ มีชนิดย่อยสองชนิดย่อยคือ O.g.guigna อาศัยอยู่ในชิลีตอนใต้และอาร์เจนตินา มีขนาดเล็กกว่า สีสันสว่างกว่าและมีจุดที่ขา ส่วน O.g.trigillo อาศัยอยู่ในตอนกลางของชิลี ไม่มีลายที่ตีน ตัวที่มีสีดำสนิทแบบเมลานิซึมก็เคยพบทั้งสองชนิดย่อย และอัตราการเกิดเมลานิซึมค่อนข้างสูง มักเกิดขึ้นที่แถบละติจูดสูง โดยเฉพาะที่เกาะชิโลเอและ Guaitecas ฝรั่งเศส guigna, chat du Chili เยอรมัน Chilenische Waldkatze, Nachtkatze สเปน Guina ถิ่นที่อยู่อาศัยและเขตกระจายพันธุ์ พบเฉพาะในทางตะวันตกเฉียงใต้ของอาร์เจนตินา ตอนกลางและตอนใต้ของชิลี ชอบอาศัยอยู่ในป่าดิบเขตอบอุ่น ป่าผสมในเขตอบอุ่น และป่าพืชเมล็ดเปลือย พื้นที่ระหว่างชายฝั่งทะเลกับเทือกเขาแอนดีส พบได้จนถึงระดับแนวไม้ยืนต้นที่ความสูง 1,900 ถึง 2,500 เมตร นอกจากนี้ก็ยังอาจพบได้ในป่าชั้นสอง ป่าละเมาะ และชายป่าใกล้ชุมชนมนุษย์ อุปนิสัย ปกติคอดคอดหากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ในที่ที่มีมนุษย์อยู่ คอดคอดจะหากินเฉพาะกลางคืนเท่านั้น ส่วนคอดคอดในแหล่งเพาะเลี้ยงก็เคยพบว่ามักมีกิจกรรมในตอนกลางวันมากกว่า คอดคอดหากินบนพื้นดินเป็นหลัก แต่ก็ปีนป่ายได้ดี อาจปีนขึ้นต้นไม้ไปพักผ่อนในเวลากลางวันหรือเพื่อหนีอันตราย อาหารหลักคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก เช่น หนู นก และสัตว์เลื้อยคลาน ภัยคุกคาม ในเกาะชิโลเอของชิลี มีจำนวนประชากรคอดคอดอยู่น้อยและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ไม่กี่แห่งที่ยังหลงเหลือจากการถากถางเพื่อทำไร่และตามพุ่มไม้ริมถนน จับหนูและแมลงกินเป็นอาหาร ถนนเป็นอุปสรรคในการสัญจรของคอดคอด เพราะมันจะข้ามถนนเฉพาะตรงจุดที่มีไม้ทอดเงาข้ามถนนเท่านั้น ในพื้นที่ที่ถูกแบ่งแยกอย่างหนักนี้ แมวตัวผู้ต้องเดินทางเป็นระยะทางไกลขึ้นเพื่อหาคู่ ทำให้มีโอกาสต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ ส่วนตัวเมีย ซึ่งใช้พื้นที่หากินน้อยกว่าดูจะไม่ค่อยเดินทางมากเท่าตัวผู้ ตัวเมียที่นี่น้ำหนักเฉลี่ย 1.7 กิโลกรัม ส่วนตัวผู้ 2.4 กิโลกรัมนอกจากนี้ชาวบ้านที่นี่ก็ไม่เป็นมิตรกับคอดคอดนักเพราะมองว่าคอดคอดเป็นปีศาจดูดเลือด ความเข้าใจผิดนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเคยมีการพบรูเขี้ยวสองรูที่คอของเป็ดไก่ของชาวบ้าน ชีววิทยา แม่คอดคอดตั้งท้องนาน 72-78 วัน ออกลูกคราวละ 1-3 ตัว ตัวเมียถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 24 เดือน ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุได้กว่า 11 ปี สถานภาพ จำนวนประชากรของคอดคอดในธรรมชาติไม่ทราบแน่ชัด แต่จากการที่มีเขตกระจายพันธุ์จำกัดอาจแสดงถึงจำนวนประชากรที่ไม่มากนัก และนี่ก็เป็นสาเหตุให้คอดคอดค่อนข้างอ่อนไหวต่อการทำลายป่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในอเมริกาใต้ แม้ขนาดที่เล็กของแมวชนิดนี้ช่วยให้มันหลุดรอดสายตาไปจากการล่าเพื่อเอาหนังได้ดี แต่มันก็มักติดกับดักที่นายพรานวางไว้ดักหมาจิ้งจอกอยู่เสมอ แมวชนิดนี้ได้รับการคุ้มครองทั้งที่ประเทศอาร์เจนตินาและชิลี ไซเตสจัดไว้ในบัญชีหมายเลข 2 (2552) ไอยูซีเอ็นประเมินว่าอยู่ในสถานะเสี่ยงสูญพันธุ์ (2551) Leopardus guigna ชื่อไทย คอดคอด ชื่อวิทยาศาสตร์ Leopardus guigna ชั้น Mammalia อันดับ Carnivora วงศ์ Felidae วงศ์ย่อย Felinae สกุล Leopardus

รู้จักกับ Rusty-spotted cat แมวสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลก
เชื่อหรือไม่ว่าแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกนี้ ไม่ใช่แมวบ้านหรือแมวที่เลี้ยงอยู่แต่อย่างใด แต่ว่ามันเป็นแมวป่าที่มีชื่อว่า Rusty-spotted cat ซึ่งมีขนาดเล็กมากที่โตเต็มที่มีน้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลกรัมเลยล่ะ Rusty-spotted cat เป็นแมวป่าที่เล็กที่สุดในโลกเป็นหนึ่งในสกุลแมวดาว ซึ่งมีลวดลายสวยงาม มีความยาว 35 ถึง 48 ซม. มีหาง 15 ถึง 30 ซม. และน้ำหนักเพียง 0.9 ถึง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งคู่แข่งแมวขนาดเล็กที่สุดในโลกคือแมวตีนดำ ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ว่ากันว่าสายพันธุ์นี้มีขนาดเล็กกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถึงแม้ว่าพวกมันจะตัวเล็ก แต่จิตใจก็ยังคงห้าวหาญไม่แพ้แมวสายพันธุ์ใหญ่ๆเลยล่ะ แมวเหล่านี้ส่วนใหญ่พบในป่าของอินเดียและศรีลังกา พวกเขาได้รับการพิจารณาว่าเป็นสัตว์หายากชนิดหนึ่ง แต่เมื่อเร็วๆนี้กลับพบว่าพวกมันมีจำนวนมากขึ้น จนสามารถพบเห็นได้ไม่ยากนัก เนื่องจากว่าพวกมันสามารถเอาตัวรอดในป่าได้เป็นอย่างดี ทำให้พวกมันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และจะคงอยู่แบบนี้ต่อไป ถ้าไม่ถูกมนุษย์ล่าไปซะก่อน ปัจจุบันมีกฎหมายห้ามล่า Rusty-spotted cat เด็ดขาด สิ่งหนึ่งที่จะเบียดเบียนสัตว์ป่าเหล่านี้ก็คือประชากรของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น จนต้องการพื้นที่ป่าของสัตว์เหล่านี้ ทำให้ในอนาคต อาจไม่มีถิ่นที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์บนโลกใบนี้