ส่อง ‘งูดำ’ สัตว์เลี้ยงแปลก

สัตว์เลี้ยงสุดแปลก

สัตว์เลี้ยงสุดแปลก  กลายเป็นเรื่องฮือฮา เมื่อสาวนักศึกษาแพทย์ ออกมาโพสต์ตามหาสัตว์เลี้ยงแสนรัก “เมิร์ก” งู เม็กซิกัน แบล็ก คิง สเนค ก่อนจะหาพบ ที่หอพักแบบใกล้ๆตัว ทำให้คนหันมาสนใจ “งูดำ” ที่กำลังเป็นที่สนใจในหมู่คนเลี้ยงสัตว์แปลกๆ งู เม็กซิกัน แบล็ก คิง สเนค นี้ เป็นงูสีดำ เลี้ยงง่าย กินเก่ง กินหนูแช่เป็นอาหาร และไม่มีพิษ ตัวโตเต็มวัยไม่เกิน 1 เมตร ไม่ดุ ไม่ค่อยกัด ยกเว้นเวลาหิวจัดๆ อาจมีกัดเจ้าของบ้าง แต่ไม่ได้เพื่อการต่อสู้ ตัวละกว่า 6,500 บาท ด้วยความสวยงาม และไม่ดุนี่เอง ที่ทำให้ “งูดำ” กลายเป็นที่โปรดปราน
แต่นอกจากงูแล้ว ก็ยังมีสัตว์อื่นๆ ซึ่งคนไทยไม่น้อยที่ถูกใจเลี้ยงสัตว์ชนิดแปลกๆ ที่ไม่ใช่แค่ สุนัข แมว หรือ กระต่าย และปลาสวยงาม
มติชนออนไลน์ จึงรวบรวม สัตว์แปลกๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมมาให้ได้ชม

1.เต่ายักษ์ซูลคาต้า สัตว์แปลกที่หน้าตาน่ารัก ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก เป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โตเต็มที่ใหญ่ได้ถึง 36 นิ้ว อายุยืนกว่า 70 ปี ทำให้ต้องเลือกสถานที่ที่กว้างในการเลี้ยง และมีอุณหภูมิพอเหมาะที่ 30-35 องศาเซียลเซียส ซึ่งหากเต่าซูลคาต้า ป่วยขึ้นมา ก็ต้องพาไปหาสัตวแพทย์ที่ศึกษาเรื่องสัตว์แปลกๆโดยเฉพาะ นั่นทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงไม่น้อย และแม้จะมีแหล่งกำเนิดอยู่ไกลถึงเอธิโอเปีย และซูดาน แต่ก็มีฟาร์มเพาะขายที่ไทยแล้ว โดยตัวเล็กๆมีราคาตั้งแต่พันต้นๆ

2. วูปาลูปา สัตว์เลี้ยงยอดฮิตในประเทศญี่ปุ่น หรือ ซาลาแมนเดอร์เม็กซิโก ภาษาอังกฤษเรียกว่า wooper looper หรือ แอกโซลอเติล เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ พบมากแถวอเมริกากลางหรือใต้ เริ่มวางขายให้เห็นที่ไทย นิยมเลี้ยงในตู้สี่เหลี่ยม กินอาหารประเภทแมลงเล็กๆ เลี้ยงดูไม่ยาก น่ารักจนมีคนนำไปออกแบบเป็นตุ๊กตา อยู่ในขั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะถูกคุกคามโดยมนุษย์ คนไทยเรียกเจ้าตัวนี้ว่า หมาน้ำ

3. เฟนเน็คฟ็อกซ์ สุนัขจิ้งจอกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เดิมอาศัยที่ทะเลทรายซาฮาร่า อยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆ กินได้ทั้งพืชและสัตว์ อย่างแมลงขนาดเล็ก รักความสันโดด มักส่งเสียงในเวลากลางคืน สามารถหาซื้อได้จากฟาร์มที่ได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์ ได้รับความนิยมจนมีคาเฟ่หมาจิ้งจอก และมีแฟนเพจคนรัก เฟนเน็คฟ็อกซ์ อีกด้วย ตัวเล็กๆแต่ราคาไม่จิ๋ว แรกเกิดมีราคาถึง 65,000 บาทเลยทีเดียว

4. กบตาหนามอาร์เจนตินา หรือ ฮอร์น ฟรอก บางคนเรียกว่า กบแพ็กแมน จากลักษณะปากกว้างของมัน มีเฉพาะในถิ่นทวีปอเมริกาใต้ มีสีสันสวยงาม ทั้งสีเขียว เหลือง ส้ม อายุเฉลี่ย 6-15 ปี ปกติจะนอนนิ่งๆ ไม่ต้องให้อาหารทุกวัน ลอกคราบเป็นประจำ บางตัวถึงกับลอกทุกอาทิตย์ ปัจจุบันมีเพาะพันธุ์ขาย เริ่มที่ตัวละ 1,000 บาทต้นๆ

5. ชินชิล่า หนูตัวเล็กๆ ที่มีลักษณะอ้วนกลม จนเหมือนกระต่าย มีหลายสี ทั้งเทา เทาอ่อน หางยาว มีถิ่นกำเนิดที่ เปรู อาร์เจนตินา ชอบอยู่เป็นกลุ่ม จะหลับตอนกลางวันและตื่นตัวในเวลากลางคืน ค่อนข้างร่าเริง ชอบปีนป่าย และกระโดด ชอบอากาศเย็น กิบหญ้าอัลฟาฟ่า และอาหารเม็ดเฉพาะของชินชิล่า ใช้ฝุ่นอาบน้ำเฉพาะของชินชิล่าในการอาบน้ำ

6. ตุ๊กแกเสือดาว เป็นหนึ่งในสัตว์เลื้อยคลานยอดนิยม เพราะดูแลไม่ยาก สีสันสวยงาม อาศัยอยู่ที่ราบสูงของเอเชีย อัฟกานิสถาน และอินเดียตอนเหนือ ทนอากาศร้อนได้ แตกต่างจากตุ๊กแกอื่นเพราะมีเปลือกตาที่เคลื่อนย้ายได้ อายุขัย 6-20 ปี กินหนอนนก จิ้งหรีด เป็นอาหาร และยังกินแคลเซียมพิเศษ หาได้ตามร้านอาหารทั่วไป

7.ชูการ์ไกลเดอร์ หรือ จิงโจ้บิน มีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับเลี้ยงลูกอ่อน จัดอยู่กลุ่มเดียวกับโคอาลา และจิงโจ้ มาจาก ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย มีพังผืดข้างลำตัว ตั้งแต่มือไปถึงข้อเท้า ร่อนได้ไกล 80-150 เมตร โตเต็มที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ มีสีเทาดำ หางสีดำ มีนิสัยขี้อ้อน ชอบมุด ไต่ตามตัวคล้ายแมว อยู่ติดกับเจ้าของตลอดเวลา

8. แพรี ด็อก หรือ กระรอกดินชนิดหนึ่ง คล้ายกับหมีตัวจิ๋ว มีหางไม่ยาว อายุขัยประมาณ 7-12 ปี ราคาราว 4,000 บาท ส่งเสียงร้องคล้ายสุนัข ชอบอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่น ไม่งั้นจะเหงาตาย ตอบสนองคนเลี้ยงได้ดี สามารถจูงเดินเล่นได้ กินอาหาร ของกระต่ายและแฮมสเตอร์ได้ รวมทั้งหญ้าทิโมธี

9. บรู๊คเคเซีย เป็น 1 ในสกุลของกิ้งก่าคาเมเลียน ซึ่งเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทย นับได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่เล็กที่สุด ยาวเฉลี่ยเพียง 5.5-5.5 ซม. เล็กจนเกาะบนหัวไม้ขีดไฟได้ มีลำตัวสีน้ำตาลเข้ม พรางตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี มีสีหม่นๆ ไม่สามารถปีนต้นไม้ได้ อายุขัยประมาณ 2-3 ปี เลี้ยงในตู้กระจกได้

10. เฮดจ์ฮอก หรือ เม่นแคระ นิยมนำมาเลี้ยงทั่วไป มีหนามรอบตัวประมาณ 7,000 เส้น ใบหน้าคล้ายหนู จมูกเรียวยาว กินแมลงเป็นอาหารหลัก เลี้ยงเดี่ยวๆได้และไม่สร้างเสียงดัง อายุเฉลี่ย 4-8 ปี กิน หนอนนก จิ้งหรีด และอาหารแมวที่มีส่วนผสมของเนื้อหรือไก่ รวมไปถึงกล้วย แอปเปิ้ล ไม่ควรแหย่เวลาหลับ แม้ว่าขนจะแข็ง แต่ก็สามารถอุ้มได้

11. เจ้าลิงน้อย “มาโมเสท” มีสีขาว หางมีสีเทาสลับเทาเข้า ยาวประมาณ 20-25 ซม.และมีหางยาว 29-35 ซม. หนักประมาณ 400 กรัม ถิ่นอาศัยอยู่ที่ป่าเขตร้อนของบราซิล กินผลไม้ แมลง ไข่นก และนกขนาดเล็กเป็นอาหาร ออกลูกครั้งละประมาณ 1-3 ตัว ขนของมันอ่อนนุ่มคล้ายเส้นไหม ใบหน้าเหมือนใส่หน้ากาก ชอบอยู่เป็นฝูง หากจะเลี้ยง มาโมเสท เรียกว่าต้องกระเป๋าหนัก เพราะราคาตัวละประมาณ 90,000 – 120,000 บาท ขณะที่บางพันธุ์ มีราคา 30,000 บาทขึ้นไป และต้องขออนุญาตกรมป่าไม้ก่อนนำมาเลี้ยง

12. “งูข้าวโพด” หรือ คอร์น สเนค งูที่ได้ชื่อว่าเชื่องที่สุด พบมากในสหรัฐอเมริกา อาศัยตามไร่ข้าวโพด ตามบ้านเรือนคน มีลวดลายคล้ายข้าวโพดบริเวณใต้ท้องของงู ขี้อาย ไม่ดุร้าย ไม่มีพิษ ตัวลื่น เกล็ดแข็งเรียบ มีสีส้มหรือเหลืองน้ำตาล เลี้ยงง่าย อยู่ได้ในตู้กระจกหรือ กล่องพลาสติกที่มีฝาปิด กินอาหารประเภท หมูแดง ลูกหนู หรือลูกไก่ตัวเล็กๆ

นอกจากนี้ยังมี “แมลงสาบมาดากัสการ์” เป็นแมลงสาบไม่มีปีก ตัวเต็มวัยยาว 7-10 เซนติเมตร หนัก 20-25 กิโลกรัม เคลื่อนไหวช้าและไม่ทำร้ายมนุษย์ ทำให้คนนิยมนำมาเลี้ยง กินซากลูกไม้ ใบไม้ กินอาหารได้เกือบทุกชนิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง กลางวันมักหลบซ่อนตัวตามขอนไม้ และหากินเวลากลางคืน สามารถออกลูกได้ 3-4 ครั้งต่อปี มีอายุยืนถึง 2-5 ปี แมลงสาบมาดากัสการ์ เคยเป็นข่าวดังเนื่องจากเป็นพาหะนำโรคมาสู่ไทย มีแบคทีเรียถึง 45 ชนิด จึงได้ห้ามเลี้ยงในไทย และต้องนำไปทำลาย อย่างไรก็ตาม มีชื่ออยู่ในบัญชีไซเตส และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *