สัตว์สุดแปลกที่ดูจากภาพก็ไม่รู้ว่าคือตัวอะไร จะกระต่ายก็ไม่ใช่ จะกวางก็ไม่เชิง สัตว์ชนิดนี้มีชื่อว่า Patagonian mara หรือ พาตาโกเนียนมารา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Dolichotis patagonum อาศัยอยู่ในบริเวณทุ่งกว้างที่มีพุ่มไม้ขึ้นอยู่กระจัดกระจาย หรือในพื้นที่กึ่งทะเลทราย พบในแคว้นพาตาโกเนียน ประเทศอาเจนติน่าและประเทศปรากวัย อีกทั้งยังเป็นสัตว์ฟันแทะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากแคปบาบาร่าและบีเวอร์
ลักษณะของพาตาโกเนียนมาราเป็นอย่างไร?
พาตาโกเนียนมาราเป็นสัตว์ประเภทฟันแทะ มีน้ำหนักประมาณ 9-19 กิโลกรัม และส่วนสูงประมาณ 69-75 เซนติเมตร ใบหน้าและหูมีรูปทรงคล้ายกระต่าย ส่วนลำตัวจะคล้ายกวางขนาดเล็ก ลำตัวมีขนสีน้ำตาลและมีขนาดใหญ่ยาวประมาณ 70-75 เซนติเมตร ท้องมีสีขาวปนน้ำตาลแดง ก้นสีขาว หางยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร เท้าหน้ามี 4 นิ้ว และเท้าหลังมี 3 นิ้ว ขาคู่หลังจะเรียวยาวกว่าขาคู่หน้า เพื่อช่วยให้ขาหลังสามารถหลบหลีกศัตรูได้ อายุเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี
พาตาโกเนียนกับวัยเจริญพันธุ์
พาตาโกเนียนมาราเป็นสัตว์ที่รักเดียวใจเดียว พอถึงอายุ 1-5 ปี จะเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ และหาคู่สืบพันธุ์ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนมกราคม และจะผสมพันธุ์ประมาณ 1-3 ครั้งต่อปี เมื่อท้องจะตั้งท้องประมาณ 3 เดือน และออกลูกครั้งละประมาณ 1-3 ตัว พอถึงอายุประมาณ 2-3 เดือนก็จะหย่านม แล้ววนเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์อีกครั้ง
ชีวิตประจำวันกับความสามารถพิเศษของพาตาโกเนียนมารา
พาตาโกเนียนมารามีนิสัยอ่อนโยน รักสงบ ออกหากินในเวลากลางวัน โดยจะกินพืช หญ้า ผลไม้ เปลือกไม้ และรากไม้ พาตาโกเนียนมาราอาศัยกันอยู่เป็นกลุ่มประมาณ 20 ตัว กิจวัตรประจำวันโดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องไปกับอาหาร และบางเวลายามพักผ่อนก็จะพับขาหน้าเก็บเข้าไปเหมือนแมวและชอบอาบแดดเป็นเวลานาน ส่วนในเวลากลางคืนจะพบได้ในโพรง โดยใช้ขาหน้าที่มีเล็บแหลมคมมาช่วยในการขุดโพรงที่อยู่อาศัย พาตาโกเนียนมาราสามารถวิ่งเร็วได้ถึง 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อถูกคุมคามจากศัตรูสามารถกระโดดไกลได้ถึง 6 ฟุต และสามารถวิ่งควบกระโดดได้เหมือนกระต่าย โดยเรียกการเคลื่อนไหวนี้ว่า stotting อีกทั้งยังมีการเปล่งเสียงในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ส่งเสียงคำราม ส่งเสียงกรีดร้อง เป็นต้น
การสูญพันธุ์ของพาตาโกเนียนมารา
พาตาโกเนียนมารานับว่าเข้าข่ายที่จะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากการไม่มีที่อยู่อาศัย จากการล่าสัตว์ของมนุษย์หรือโดนล่าจากสัตว์อื่นๆ เช่น เสือ สุนัขจิ้งจอก และนกล่าเหยื่อ อีกทั้งจากการแข่งกับสัตว์กินพืชชนิดอื่นๆ เพื่อแย่งชิงอาหาร เช่น กระต่ายยุโรป แกะ จึงทำให้พาตาโกเนียนมารามีจำนวนประชากรที่ลดลง เราจึงต้องรณรงค์และอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็น ได้ศึกษาจากตัวจริง ไม่ใช่ทำได้แค่เพียงศึกษาจากภาพถ่ายที่เก็บไว้ สำหรับบทความนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย