ด้วยความน่ารักสุดมุ้งมิ้ง สีสันสดใส ขนฟู จึงทำให้เจ้ากระต่ายทะเล (Sea Bunny) สัตว์น้ำขนาดเล็กกลายเป็นเทรนด์สัตว์เลี้ยงแนวใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นชาวญี่ปุ่น ถึงขนาดตั้งสมญานามว่า “โกมะจัง” โดยแท้ที่จริงแล้วกระต่ายทะเลเหล่านี้ก็คือทากทะเลที่มีรูปร่างหน้าตาและมีหูยื่นออกมาเหมือนกระต่ายนั่นเอง
กระต่ายทะเล สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้สามารถพบเจอได้ในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศญี่ปุ่น กระจายพันธุ์ที่ระดับความลึกประมาณ 15-20 เมตร ซึ่งมันจะมีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร นอกจากนี้พวกมันยังมีสีสันที่แตกต่างกันอีกด้วยเช่น สีขาว สีเหลือง สีชมพู ขาว-ดำ ขาว-แดง ฯลฯ เป็นต้น
ส่วน “หู” ของกระต่ายทะเล ตัวนี้เรียกว่า “rhinophores” หรือ “chemosensory” ทำหน้าที่เป็นจมูกที่เอาไว้ช่วยในการตรวจจับสิ่งรอบๆ ตัว ใช้เป็นประสาทสัมผัสกลิ่นและรสในน้ำทะเลเพื่อใช้หาอาหาร รวมถึงการหาคู่เพื่อผสมพันธุ์ด้วย เรียกได้ว่า เหมือนทากมากทีเดียว
กระต่ายทะเล หรือ ทากทะเล มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “โจรันนาพาวา” (Jorunnaparva) เป็นสัตว์ในไฟลัมมอลลัสกา (Phylum Mollusca) อยู่กลุ่มเดียวกับหอย มีสีสันสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นที่ต้องการของใครหลายคนๆ อยู่ในขณะนี้
การจะนำกระต่ายทะเลมาเลี้ยงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะสุดท้ายจะตาย เนื่องจากเราเอาอาหารอย่างฟองน้ำสีม่วงมาให้ไม่ได้ และยังเป็นสัตว์ที่เปราะบางต้องการน้ำหมุนเวียนตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญคนใดสามารถเพาะเลี้ยงกระต่ายทะเลได้ ดังนั้นสัตว์ที่นำมาเลี้ยงเกือบทั้งหมดถูกจับมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น
นอกจากนี้ การจับกระต่ายทะเลในเขตทะเลทั่วไปไม่ผิดกฎหมาย แต่หากจับในเขตอุทยานจะก่อให้เกิดความผิดทางกฎหมาย เพราะเขตอุทยานเป็นเขตที่ไม่อนุญาตให้จับสัตว์ทะเล จึงอยากขอความร่วมมืออย่าทำลายธรรมชาติ และไม่ให้คนไทยนำมันขึ้นมาจากทะเลเพื่อเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง อย่าสร้างค่านิยมที่ผิดๆ ด้วยการนำสัตว์ป่า สัตว์ตามธรรมชาติมาเป็นของตนเองอีกเลย