9 สายพันธุ์นกน่าเลี้ยง สีสันคัลเลอร์ฟูลที่สุดในปี 2022

1.นกคานารี่ Canary

ถิ่นกำเนิด: Macranesian Islands of Azores, Madeira และ Canary Islands
ขนาดตัว: 13-20 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 14-28 กรัม
สีขน: เขียว เหลือง แดง ส้มและขาว
หมายเหตุ ขนาดตัว หมายถึง ความยาวตั้งแต่หัวถึงปลายหาง

นกคานารี่ที่เราคุ้นเคยอาจเป็นนกขนสีเขียวปนเหลือง แต่ในปัจจุบันกลุ่มผู้เลี้ยงนกคานารี่มีการปรับปรุงสายพันธุ์จนได้นกคานารี่ที่มีหลากหลายสีสันทั้ง แดง ขาวและส้ม

นกคานารี่ถือเป็นนกน่าเลี้ยง เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก คอนโดหรืออพาร์ทเม้นต์ เพราะใช้พื้นที่ในการเลี้ยงไม่มากและเสียงนกร้องไม่ดังจนรบกวนคนข้างบ้าน แต่ด้วยขนาดตัวที่เล็กและนิสัยของนกที่ไม่ได้ชอบให้มนุษย์จับเล่น การเลี้ยงนกคานารี่เป็นเหมือนการเลี้ยงนกในกรงไว้มองเท่านั้น

2.นกฟินซ์Finch

ถิ่นกำเนิด: ออสเตรเลีย
ขนาดตัว: 10 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 15 กรัม
สีขน: ขาว ดำ ส้ม แดง เทา น้ำตาลและลวดลายที่หลากหลาย
นกฟินซ์เป็นนกขนาดเล็กที่มีสีสันหลากหลายมากที่สุดชนิดหนึ่ง ตามธรรมชาตินกฟินซ์อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ เมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม นกฟินซ์ดูมีเสน่ห์มากทั้งสีขนที่สวยงามหลากหลายและเสียงร้องที่เหมือนเสียงดนตรี

ด้านการเลี้ยง นกฟินซ์ต้องการพื้นที่ค่อนข้างเยอะในการบินและการจัดแต่งกรงให้ใกล้เคียงกับ ป่าธรรมชาติ ซึ่งจะดีมากหากเลี้ยงรวมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ นอกจากนั้นการเลี้ยงนกฟินซ์คือการเลี้ยงนกในกรง เราทำได้เพียงแค่นั่งมองนกอยู่ข้างนอกเท่านั้น นกไม่ชอบถูกรบกวนและไม่ใช่นกแบบที่สามารถ จับเล่นได้ หากใครต้องการนกที่จับเล่นได้ให้มองหานกคัลเลอร์ฟูลชนิดอื่น ๆ แทน

3.นกเลิฟเบิร์ดLovebird

ถิ่นกำเนิด: แอฟริกา
ขนาดตัว: 13-18 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 60 กรัม
สีขน: เขียว ฟ้า ส้ม เหลือง ขาวและหลายสีผสมกันในโทนพาสเทล
นกเลิฟเบิร์ด นกสีพาสเทลสดใสที่เป็นตัวเลือกแรกของคนเลี้ยงนกแก้วที่ชื่นชอบสีสันและขนาดตัวเล็กจิ๋ว สีขนของนกเลิฟเบิร์ดมีตั้งแต่เขียว ฟ้า ส้ม เหลือง ขาวและหลากหลายเฉดสีในตัวเดียว

นกเลิฟเบิร์ดเหมาะกับคนรักนกที่มีเวลาให้นกค่อนข้างมาก เนื่องจากนกชนิดนี้ชอบการเข้าสังคม ไม่ชอบอยู่ตัวเดียว เสียงดังและชอบสื่อสารกับฝูงนกและเจ้าของ ซึ่งหากเลี้ยงตัวเดียว ปล่อยปละละเลยไม่ดูแล นกเลิฟเบิร์ดที่เหงาอาจกลายเป็นนกซึมเศร้าที่ทำร้ายตัวเองหรือกัดเจ้าของได้ ดังนั้น หากคิดจะเลี้ยงนกชนิดนี้ อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่นกน้อยในกรงที่ต้องการน้ำและอาหารเท่านั้น แต่ยังต้องการความเอาใจใส่ดูแลอีกด้วย

4.นกหงส์หยกBudgerigar, Budgie

ถิ่นกำเนิด: ออสเตรเลีย
ขนาดตัว: 18-20 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 30-40 กรัม
สีขน: เหลือง เขียว ฟ้า ขาว
นกหงส์หยก คือนกแก้วขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดในประเทศออสเตรเลีย ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ สามารถพบได้ทั่วประเทศโดยเฉพาะบริเวณป่าใกล้แหล่งน้ำ ชื่อนกมาจากคำว่า Betcherrygah ในภาษาของชาวอะบอริจิน มีความหมายว่า อาหารที่ดี (good food) ไม่มีใครรู้ความหมายจริง ๆ นอกจากคนตั้งชื่อคนแรก แต่มีความเป็นไปได้ว่านี่อาจหมายถึง นกหงส์หยกเป็นนกที่เลือกกินแต่อาหารดี ๆ ก็เป็นได้

นกหงส์หยกเป็นสัตว์เลี้ยงที่แพร่หลายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1850 โดยช่วงแรกมีเพียงสีดั้งเดิมคือ นกขนสีเหลืองอมเขียวแซมด้วยสีน้ำเงิน ต่อมามีการพัฒนาสายพันธุ์จนมีสีสันหลากหลายอย่างที่เห็นในปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นที่โทนสีพาสเทล

นกหงส์หยกน่ารัก สีขนสวยงามโดยเฉพาะคนที่ชอบโทนสีพาสเทล เหมาะกับผู้เลี้ยงมือใหม่และยังสามารถฝึกพูด เลียนเสียงมนุษย์ได้ หากกำลังมองหานกน่าเลี้ยงที่ดูแลไม่ยาก นกหงส์หยกก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่อย่าลืมว่านกชอบเข้าสังคมมาก ไม่เหมาะกับการเลี้ยงตัวเดียวและคนที่ค่อนข้างยุ่ง เพราะนกหงส์หยกจะไม่อดทนกับความเหงาอย่างแน่นอน

5.นกซัน คอนัวร์Sun Conure

ถิ่นกำเนิด: ตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้
ขนาดตัว: 30 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 100-150 กรัม
สีขน: เหลือง ทอง ส้ม ฟ้าและเขียว
นกซัน คอนัวร์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องสีส้ม ๆ เหลือง ๆ สดใสเหมือนพระอาทิตย์ในฤดูร้อน สีสันของนกชนิดนี้ประกอบกันได้อย่างสวยงาม เริ่มจากหน้าสีเหลืองแซมด้วยสีส้มรอบตา ลำตัวเป็นสีส้มสลับเหลืองสด ปีกทั้งสองข้างสีเขียวแซมด้วยขนสีทองและส่วนหางพบได้ทั้งสีฟ้า เขียวมะกอก จนถึงเขียวสดใส

นกซัน คอนัวร์อยู่ในลิสต์นกน่าเลี้ยง สุดคัลเลอร์ฟูล ที่ฮิตมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนรักนกทุกคนต้องรู้จักนกชนิดนี้อย่างแน่นอน หากต้องการนกสีจี๊ดจ๊าดที่สามารถเล่นด้วยได้จริง นกซัน คอนัวร์คือหนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุด

6.นกแก้วโนรีRainbow Lorikeet

ถิ่นกำเนิด: ออสเตรเลีย
ขนาดตัว: 25-30 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 85-150 กรัม
สีขน: เขียว น้ำเงิน ส้ม แดงและเหลือง
นกแก้วเรนโบหรือนกแก้วโนรี เป็นหนึ่งในนกที่คัลเลอร์ฟูลที่สุด ด้วยองค์ประกอบสีแบบที่เรียกได้ว่าฉูดฉาด ทั้งสีน้ำเงิน เขียว ส้ม แดงและเหลือง พร้อมทั้งเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มองเห็นได้แต่ไกลว่านั่นนกแก้วโนรี นกแก้วชนิดนี้เหมาะกับผู้เลี้ยงมือใหม่ที่ต้องการเลี้ยงนกที่เป็นมิตร สีสันสวยงามและดูแลไม่ยาก

นกแก้วโนรีมีความแตกต่างจากนกแก้วสายพันธุ์อื่น ๆ นอกจากสีสันสดใสแล้ว นกแก้วโนรียังมีลิ้นแบบพิเศษที่ใช้สำหรับกินน้ำหวานจากดอกไม้อีกด้วย

7.นกโรเซล่าCrimson Rosella

ถิ่นกำเนิด: ออสเตรเลีย
ขนาดตัว: 25-35 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 150-170 กรัม
สีขน: แดง น้ำเงิน เขียวเข้มและดำ
นกโรเซล่ามีถิ่นที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย สีสันของนกโรเซล่าอยู่ที่ขนที่มีหลากหลายเฉดสีรวมกันอยู่ในนกตัวเดียว โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ขนสีแดงสดบริเวณหัวไล่ลงมาถึงช่วงตัว ปีกสีแดงสลับกับน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ นอกจากนั้นเรายังสามารถแยกเพศนกได้จากสีของขนหางได้อีกด้วย โดยนกเพศผู้มีขนหางสีน้ำเงินเข้มและนกเพศเมียมีแถบขนสีเขียวเข้มที่ขนหาง

นกโรเซล่าเป็นนกน่าเลี้ยงที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเลี้ยงเป็นพิเศษ แม้ว่าจะดูเป็นนกที่น่ารักแต่นิสัยค่อนข้างหงุดหงิดง่าย ไม่ชอบให้จับหรือเล่นด้วย หากถูกรบกวนอาจกัดได้ง่าย ๆ เจ้าของอาจเล่นกับนกได้มากที่สุดเพียงแค่ให้นกเกาะนิ่ง ๆ บนไหล่เท่านั้น

8.นกกระตั้วกาล่าRose-breasted Cockatoo, Galah

ถิ่นกำเนิด: ออสเตรเลีย
ขนาดตัว: 30-40 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 280-400 กรัม
สีขน: สีเงิน เทาและชมพู
นกกระตั้วกาล่า มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลีย นกชนิดนี้มีความน่ารักสะดุดตาตรงขนสีชมพูกุหลาบตลอดทั้งอกและท้อง ส่วนหัว ปีก และหางเป็นสีเทาหรือเงิน เนื่องจากเป็นนกที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศออสเตรเลีย การเลี้ยงนกกระตั้วกาล่าจึงได้รับความนิยมไม่น้อย นอกจากนั้นยังเป็นนกที่สุภาพเรียบร้อยและเป็นมิตรกับเจ้าของมาก แต่กระตั้วกาล่าอาจไม่ได้ชอบให้สัมผัสถูไถเหมือนกระตั้วสายพันธุ์อื่น ๆ ดังนั้นอย่าคาดหวังว่านกชนิดนี้จะดูร่าเริงหรืออ้อนเจ้าของเหมือนนกกระตั้วใน youtube

9.นกแก้วสกาเล็ต มาคอร์Scarlet Macaw หรือชื่อภาษาละติน Ara Macao

ถิ่นกำเนิด: แถบอเมริกากลางไปจนถึงอเมริกาใต้
ขนาดตัว: 80-100 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 900-1000 กรัม
สีขน: แดง น้ำเงินและเหลือง
นกแก้วสกาเล็ต มาคอร์เป็นหนึ่งในลิสต์สุดยอดนกน่าเลี้ยงและอยู่ในกลุ่มนกแก้วมาคอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อโตเต็มที่ความยาววัดจากหัวจรดปลายหางอาจยาวได้ถึง 1 เมตร สีสันของนกแก้วสกาเล็ต มาคอร์ ค่อนข้างเด่นชัดทำให้สามารถแยกนกแก้วชนิดนี้ออกจากนกแก้วมาคอร์ชนิดอื่น ๆ ได้ง่าย ด้วยขนสีแดงสด เหลืองและน้ำเงินเข้ม

นกแก้วสกาเล็ต มาคอร์เป็นนกขนาดใหญ่ เสียงดัง ต้องการพื้นที่ในการเลี้ยงและออกกำลังกายมากกว่านกขนาดเล็ก ทำให้อาจไม่เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่แคบ เช่น คอนโดหรืออพาร์ทเม้นต์ นอกจากนั้นยังต้องการความเข้าใจในพฤติกรรมและการดูแลค่อนข้างมากจึงอาจไม่เหมาะกับผู้เลี้ยงมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเลี้ยงนก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *