จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน

“จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน” สัตว์เลี้ยงสุดแปลกของคนอินโดนีเซีย

หลังจากที่เราได้รู้จักกับจิ้งเหลนนานาชนิดในโลกที่แต่ละตัวมีความงดงามแตกต่างกันออกไปแล้ว ในวันนี้เราจะขอนำคนไทยเดินทางมาเสาะหาจิ้งเหลนอีกชนิดหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลไม่ใกล้จากประเทศเราอย่างประเทศอินโดนีเซียซึ่งเวลานี้เจ้าสัตว์เลื้อยคลานที่ถูกเรียกว่า “จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน” กำลังเป็นที่ฮือฮาในหมู่ของคนรักสัตว์เลี้ยงกันอย่างมากในแบบที่ไม่มีใครเหมือน หลายคนคงเคยเห็นแต่สัตว์เลี้ยงสุดประหลาดอีกัวน่ากันมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยรู้ว่าอินโดนีเซียก็มีสัตว์เลี้ยงสุดประหลาดที่ไม่แตกต่างจากประเทศอื่นในโลกอย่างจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงินเหมือนกันนะเอ้าเห็นเงียบ ๆ แบบนี้ แต่เซอร์ไพรส์เหล่าคนรักสัตว์เลี้ยงอย่างพวกเราแรงมาก ว่าแล้วก็ชักอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงสุดแปลกอย่างจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงินจะมีความพิเศษอย่างไรกันบ้าง? แล้วทำไมคนอินโดนีเซียยุคใหม่จึงได้คลั่งไคล้กันจนกลายเป็นเทรนด์สัตว์เลี้ยงยุคใหม่ที่มีแต่คนบอกว่าใครไม่มีติดบ้านคือเชยสะบัดเลย มาดูกันดีกว่าเผื่อไปอินโดนีเซียแล้วคุณอาจจะอยากเอากลับมาเลี้ยงสักตัว

ทำความรู้จักกับ “จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน”

จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน” หรือที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า “บลูทั้งค์” ตามลักษณะพิเศษของมันที่แตกต่างจากจิ้งเหลนอื่นตรงที่ลิ้นของมันมีสีน้ำเงินขนาดยาวอันเกิดจากเมลานินภายในร่างกาย ซึ่งโดดเด่นตัดกับลำตัวอ้วนกลมสีเทาลายน้ำตาล เกล็ดเรียบลื่นมีความเงางาม หางสั้นป้อมกลมมน ระยางค์ขาทั้ง 4 ข้างมีความสั้นน่ารักและมีส่วนหัสที่ใหญ่โตทรงสามเหลี่ยมจนถูกเรียกว่า “น้อง!” พบได้ทั่วไปตามเกาะในประเทศอินโดนีเซีย อิเรียนจายา นิวกินี และออสเตรเลีย แถบพื้นที่มีสภาพแวดล้อมป่าไม้อุดมสมบูรณ์ แต่พบมากที่สุดในอินโดนีเซีย ซึ่งแท้จริงในประเทศญี่ปุ่นก็มีให้เห็นอยู่บ้างแต่ด้วยความที่พบน้อยและรูปร่างแปลกทำให้เกิดเป็นต้นแบบความเชื่อว่าเจ้าจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงินคือสัตว์ประหลาดกึ่งงูอ้วนนามว่า “สึชิโนะโกะ” ตามตำนานวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่นเชื่อเรื่องผีและสิ่งเหนือธรรมชาติอยู่แล้ว โดยจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงินมีอาหารธรรมชาติของมัน คือ แมลงตัวเล็ก หอยทาก และหนู

การดำรงชีวิตของ “จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน”

จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน” เมื่ออายุโตเต็มวัยได้ 2 ปีจะถึงวัยเจริญพันธุ์ ในขณะผสมตัวผู้จะกัดบริเวณคอของตัวเมีย ซึ่งอาจ ทำให้เกิดรอยกัดหรือบาดแผลได้ ซึ่งเป็นธรรมชาติของสัตว์ชนิดนี้ ก่อนจะถึงเวลาแล้วออกลูกเป็นตัว ครั้งละประมาณ 6-8 ตัว ขนาดโตเต็มที่ได้ถึง 45 เซนติเมตร และเวลาเจอกับศัตรูที่จะเข้ามาทำร้าย จิ้งเหลนสีน้ำเงินจะแลบลิ้นสีน้ำเงินของมันออกมาเพื่อทำการข่มขู่

วิธีการเลี้ยง “จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน”

จิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงิน” ต้องมีการศึกษาพฤติกรรมและนิสัยของจิ้งเหลนตัวที่เราจะรับมาเลี้ยงก่อนว่ามีความเชื่องกับคนในระดับไหน หากเข้ากันได้ดีและไม่ต่อต้านใด ๆ ก็สามารถนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ โดยจิ้งเหลนลิ้นสีน้ำเงินจะไม่ค่อยต้องการแสงยูวีหรือจากธรรมชาติจากแดดมาใช้เพื่อสุขภาพมากเหมือนอย่างจิ้งเหลนกิ้งก่าจำพวกอื่น ๆ น้องเขาสามารถกินอาหารสำเร็จรูปแบบกระป๋องของทั้งสุนัขและแมวผสมกันหรือแบบผสมแคลเซียมเข้าไปก็ได้ 3 – 4 ครั้งต่ออาทิตย์ และควรเลี้ยงไว้ในตู้เลี้ยงที่ อุณหภูมิ 75 – 90 ฟาเรนไฮต์ มีการจัดสภาพแวดล้อมจำลองสวนหินและต้นไม้ โดยมีน้ำรับรองให้อยู่เสมอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *