สุนัขสายพันธุ์ปั๊ก อาหาร วิธีเลี้ยง

ข้อมูลทั่วไปสำหรับสุนัขพันธุ์​ปั๊ก

ปั๊ก (Pug) สุนัขสายพันธุ์ทอย ที่เลื่องลือไปด้วยสีหน้าแสนตลกของพวกมัน ที่ดูเครียดและกังวลตลอดเวลา เนื่องจากหมาปั๊กมีใบหน้าสั้น ลำตัวย่น จมูกสั้น และมีริ้วร้อยบนหน้ามากมาย แต่แท้จริงแล้วพวกมันมีนิสัยร่าเริง ขี้เล่น จึงทำให้ถูกขนานนามว่า “Multum in parvo” หรือ “น้อยแต่มาก” อยู่บ่อยครั้ง สำหรับทาสหมาคนไหนที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหมาปั๊กอยู่ บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญทุกอย่างที่เจ้าของปั๊กควรทราบไว้แล้วในบทความเดียว แอบกระซิบว่าเราได้รวบรวมฟาร์มปั๊กไทยระดับคุณภาพไว้ท้ายบทความด้วย มาเริ่มกันเลย

ประวัติของสุนัขพันธุ์ปั๊ก

ว่ากันว่าหมาปั๊กเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งแต่สมัย 400 ปีก่อนคริสตศักราช โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน เมือง Lo-sze และสืบสายพันธุ์มาจากบรรพบุรุษมาจากสุนัขท้องถิ่นในสมัยนั้น ซึ่งหมาปั๊กถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจ นำมาเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน และใช้แสดงถึงความมั่งคั่งของเจ้าของ ซึ่งในสมัยนั้นมีความเชื่อว่าการมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจแสดงถึงความร่ำรวยของผู้คนได้เป็นอย่างดี

ต่อมา หมาปั๊กได้รับการเผยแพร่ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเริ่มจากประเทศญี่ปุ่น รัสเซีย และถูกนำไปขึ้นเรือการค้าชื่อดังแห่งประวัติศาสตร์ บริษัท ดัช อีสท์ อินเดีย คอมพานี ในปี ค.ศ. 1572 และถูกกระจายไปทั่วทวีปยุโรป ทำให้พวกมันได้รับความนิยมในประเทศตะวันตกนับตั้งแต่ตอนนั้น โดยสายพันธุ์ของพวกมันได้รับการขึ้นทะเบียนโดย American Kennel Club (AKC) เมื่อปี ค.ศ. 1885

ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์ปั๊ก

จากที่ได้เล่าไว้ข้างบนว่าหมาปั๊กถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อความเพลิดเพลิน และเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจ ทำให้ตามสัญชาติญาณแล้ว น้อง ๆ มีนิสัยน่ารัก เชื่อง และเข้ากับผู้คนได้ง่าย และที่สำคัญ หมาปั๊กมีนิสัยติดเจ้าของมาก เมื่อตัดสินใจเลี้ยงปั๊กแล้ว น้อง ๆ จะกลายเป็นคู่หูติดตัว ที่ไม่ว่าเจ้าของจะไปเดินเล่นที่สวนยามเย็น หรือจะนอนกลางวันบนโซฟาบ้าน ก็จะมีปั๊กอยู่ข้างกายเสมอ ดังนั้นทาสหมาคนไหนที่อยากเลี้ยงปั๊ก ควรมีเวลาพอสมควร เนื่องจากการทิ้งน้องให้อยู่โดยลำพังนาน ๆ อาจทำให้น้องเครียดและเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวลได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงความฉลาดแล้ว เรียกได้ว่าแสนรู้ และแสดงออกชัดเจนมาก ๆ ซึ่งเจ้าของจะสังเกตได้จากเวลาที่พูดอะไรบางอย่างให้หมาปั๊กฟัง น้องจะตั้งใจมอง เอียงคอ ได้อย่างชัดเจนสุด ๆ

มาตรฐานสายพันธุ์เเละลักษณะทางร่างกายที่ดีสำหรับสุนัขพันธุ์ปั๊ก

โดยปกติพื้นฐานแล้ว หมาปั๊กพันธุ์ทุกตัวจะมีลักษณะเด่นชัดเจนและคล้ายเคียงกันหมด ไม่ว่าจะเป็น ศรีษะทรงกลมขนาดใหญ่ มีรอยย่นบนบริเวณรอบหน้า ใบหูขนาดเล็กพับไปด้านหน้า/หลัง จมูกเล็ก ลำตัวสั้นกระชับ มีกล้ามเนื้อ แต่เมื่อเลือกซื้อสุนัขพันธุ์ปั๊กจากฟาร์ม สิ่งที่คือต้องสังเกตุคือ ดวงตา การหายใจ และการเดินของลูกสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก ซึ่งจะบ่งบอกปัญหาสุขภาพโดยรวมของน้อง ๆ ได้

  • ดวงตา: เนื่องจากปั๊กมีดวงตาที่กลม ใหญ่ และโปนออกมาจากใบหน้า ทำให้เสี่ยงต่อปัญหาดวงตาได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ดังนั้นทาสหมาควรสังเกตปริมาณคราบน้ำตา ความขุ่นของกระจกตา และดูว่าตาเหล่หรือไม่ด้วย
  • การหายใจ: ให้อุ้มลูกหมาปั๊กไว้ใกล้ ๆ หู แล้วค่อย ๆ ฟังเสียงหายใจ ว่ามีการหายใจหอบ เสียงดัง หรือต้องหายใจทางปากหรือไม่ ถ้าพบว่าลูกหมาปั๊กมีอาการผิดปกติเหล่านี้อาจต้องพาไปผ่าตัดได้
  • การเดิน: ลูกหมาปั๊กจะเริ่มเดินได้สมบูรณ์เต็มที่เมื่อเข้าช่วงเดือนที่ 6 เป็นต้นไป ซึ่งถ้าพบว่าน้องหมาปั๊กเดินกะเผลก หรือมีเสียงแปลก ๆ จากบริเวณสะโพก เป็นไปได้ว่าน้องอาจจะเป็นโรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ ซึ่งพบได้บ่อยในสุนัขสายพันธุ์นี้

ในเรื่องของสีขน ตามมาตรฐาน American Kennel Club แล้ว สีของหมาปั๊กที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพันธุ์แท้มีเพียง 2 สีเท่านั้น ก็คือ สีน้ำตาลแกมเหลือง และหมาปั๊กสีดำเท่านั้น นอกจากนี้สีเทา สีน้ำตาลแดง สีส้ม หรือสีอื่น ๆ แปลว่านั่นไม่ใช่พันธุ์แท้แน่นอน

โรคที่ต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก

สุนัขพันธุ์ปั๊กมีอายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12-15 ปี แม้ร่างกายจะดูกำยำ กะทัดรัด สักเพียงใด น้องหมาพันธุ์ปั๊กมักพบกับปัญหาสุขภาพบ่อย ด้วยลักษณะทางกายภาพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าสั้น จมูกสั้นที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ และการทนทานต่อความร้อน หรือดวงตาใหญ่ โปน ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อลดสภาวะลูกตาหลุดออกจากเบ้า ต้อกระจก อาการติดเชื้อที่ดวงตา และตาดำอักเสบ ซึ่งประเด็นสุขภาพหลัก ๆ ของปั๊กมักจะมีดังนี้

โรคลมแดด (Heat Stroke) ถือเป็นโรคที่กลุ่มสายพันธุ์หน้าย่นทุกตัวต้องระวัง ด้วยความที่จมูกสั้น ทำให้ยากต่อการระบายความร้อนกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่มีจมูกยาวกว่า โดยอุณหภูมิร่างกายปกติของปั๊กจะอยู่ที่ 38 °C – 39 °C ซึ่งโรคลมแดดจะเกิดขึ้นเมื่อถูกให้ทิ้งอยู่ในอากาศร้อนเป็นเวลานาน จนทำให้ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ รวมกับสภาวะขาดน้ำ ดังนั้นถ้าอุณหภูมิร่างกายปั๊กสูงว่า 42 °C จะส่งผลต่อระบบร่างกายและถึงแก่ชีวิตได้

สภาวะหายใจลำบาก (Respiratory Distress) เกิดจากการที่ใบหน้าของปั๊กสั้นแต่มีเพดานอ่อนที่ยื่นยาว ทำให้มีช่องทางเดินหายใจที่แคบ มักพบได้บ่อยเวลาที่น้องหมาปั๊กเกิดอาการตื่นเต้น หรือวิตก จนทำให้ช่องทางเดินหายใจถูกบีบขึ้นจนทำให้หายใจลำบากมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับออกซิเจนในร่างกายได้ เจ้าของจึงควรหมั่นสอนและฝึกให้ปั๊กนิ่งและสงบตั้งแต่เด็ก หรือนำไปผ่าตัดเพื่อขยายทางเดินหายใจในตอนยังเด็กอยู่ได้ และสามารถผ่าตัดไปพร้อม ๆ กับการทำหมันได้ด้วย

โรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบแบบมีเนื้อตาย (Pug Dog Encephalitis) เป็นสภาวะสมองอักเสบที่เกิดได้ในหลาย ๆ ส่วนของสมองหมาปั๊ก และแสดงอาการแตกต่างกันออกไป เช่น การอักเสบของสมองส่วนหน้าอาจทำให้เกิดอาการชัก หัวบิด เดินวน อัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้ ซึ่งสาเหตุที่มาของโรคยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด แต่สัตวแพทย์ส่วนใหญ่วินิจฉัยว่าเกิดจากกรรมพันธุ์ และใช้ยากลุ่ม Corticosteroids ในการรักษาเป็นหลัก

อาหารที่เหมาะสมสำหรับสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก

โดยปกติทั่วไปแล้ว น้ำหนักตามมาตรฐานของปั๊กจะอยู่ที่ 6 – 10 กิโลกรัม และปริมาณกับอาหารหลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุและการแพ้อาหารของน้อง อย่างไรก็ตามปั๊กมีนิสัยติดนอน ไม่ค่อยขยับเขยื่อนร่างกาย แถมชอบกินอีกต่างหาก การควบคุมน้ำหนักหมามปั๊กจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเจ้าของทุกคน

อาหารสำหรับลูกสุนัขปั๊ก 3 เดือนขึ้นไป

หลังจากหย่านมแม่แล้ว ปั๊กอายุ 3 เดือนขึ้นไปจะโตขึ้นไวมาก เนื่องจากเป็นสุนัขพันธุ์เล็กซึ่งจะโตไว และต้องการสารอาหารที่มากกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่อื่น ๆ โดยในตอนเด็กให้แบ่งปริมาณอาหารเป็น 3 มื้อต่อวัน และให้พลังงาน 100 กิโลแคเลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ส่วนอาหารให้ใช้อาหารสำหรับลูกสุนัขทั่วไปได้ แต่ในช่วงนี้เจ้าของต้องหมั่นสังเกตอาการแพ้ต่าง ๆ ของน้องหมาปั๊กด้วย

อาหารสำหรับปั๊ก 12 เดือนขึ้นไป

เมื่อปั๊กโตเต็มที่ ให้ปรับสารอาหารอยู่ที่ 80 กิโลแคเลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมแทน แล้ว ให้ลองสังเกตพฤกติกรรมการกินของน้องดี ๆ หากพบว่าหมาปั๊กของเราติดนิสัยกินจุ กินเร็ว ให้แบ่งปริมาณเป็น 3 มื้อดังเดิม เพราะถ้าลดเหลือ 2 มื้อในปริมาณเยอะขึ้น อาจทำให้ปั๊กกินเร็ว กินจุ จนอ้วกออกมาได้ ในทางกลับกัน ถ้าปั๊กไม่ได้ติดนิสัยกินจุมากนัก ให้ลดเหลือ 2 มื้อและให้ขนมคบเคี้ยวกินเล่นระหว่างวันได้ แต่ไม่ควรให้ในปริมาณเยอะเกินไปจนส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้ โดยทาง Yora Thailand มี Yora Treats ขนมกินเล่นสำหรับสุนัขทำมาจากโปรตีนแมลง สารอาหารทางเลือกสำหรับปั๊กที่แพ้เนื้อสัตว์ใหญ่ ซึ่งมีทั้งสูตร Dreamers Treats สำหรับผ่อนคลาย ลดความเครียด และสูตร Rewards Treats ซึ่งทำมาจากผลไม้อบแห่ง รสชาติหอม อร่อย เหมาะเป็นรางวัลในการฝึกนิสัยหมาปั๊กสุด ๆ

อาหารสำหรับปั๊กสูงวัย 7 ปีขึ้นไป

เมื่อหมาปั๊กเข้าสู่วัยสูงอายุ จะเคลื่อนไหวน้อย ขี้เกียจขึ้น และการทำงาน Metabolism ในร่างกายถดถอยลงไปด้วย ในการที่จะคงสภาวะสมดุลในร่างกายของปั๊กและลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วน (Obesity) ในสุนัขสูงอายุ ให้เจ้าของลดปริมาณอาหารเหลือเพียง 40 กิโลแคเลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และลดอาหารที่ประกอบไปด้วยไขมัน น้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ ที่สำคัญอย่าลืมเปลี่ยนอาหารของหมาปั๊กเป็นอาหารสำหรับสุนัขสูงวัย หรือ Senior Dog ซึ่งจะใช้สารอาหารอีกประเภทที่เน้นไปที่การดูแลและบำรุงสุขภาพโดยรวมของปั๊กแก่ให้ดีและอยู่คู่กับเจ้าของไปนาน ๆ

วิธีการดูแลสุนัขพันธุ์ปั๊ก ตั้งแต่เป็นลูกสุนัขจนถึงโตเต็มวัย

การดูแลลูกสุนัขพันธุ์ปั๊ก ช่วงอายุ 4-7 เดือน

ช่วงแรก ๆ ที่รับลูกหมาปั๊กมาเลี้ยงถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสร้างความผูกพันระหว่างเจ้าของและหมาปั๊ก ไม่ว่าจะเป็นการฝึกนิสัยฉี่ การจูงเดินเล่น หรือทานั่ง ท่าขอมือต่าง ๆ ก็ควรฝึกให้ลูกหมาปั๊กเรียนรู้ทั้งหมดภายในช่วงเวลานี้ ในขณะเดียวกัน เจ้าของควรหมั่นสังเกตพฤกติกรรมต่าง ๆ ต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวปั๊ก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร กลิ่น หรือสภาพแวดล้อม เพราะอาการแพ้ต่าง ๆ จะแสดงออกมาชัดเจนในช่วงวัยเด็ก และนำไปวางแผนการเลี้ยงดูให้เติบโตมาสุขภาพแข็งแรงได้อย่างถูกต้อง

การดูแลสุนัขพันธุ์ปั๊กโตเต็มวัย อายุ 1 ปีขึ้นไป

สิ่งสำคัญในการดูแลหมาปั๊กโตเต็มวัย มักจะอยู่ในเรื่องของสุขภาพและน้ำหนักโดยส่วนใหญ่ ดังนั้นนอกจากอาหารการกินที่ได้อธิบายไปข้างบนแล้ว สิ่งที่จะช่วยให้น้ำหนักตัวของหมาปั๊กสมดุลคือการออกกำลังกายนั่นเอง เนื่องจากหมาปั๊กมีนิสัยขี้เกียจ และร่างกายไม่เหมาะกับการออกกำลังกายหนักเท่าไหร่นัก กิจกรรมที่เหมาะจึงเป็นการเดินเล่นสั้น ๆ วิ่งเก็บของ ในช่วงเวลาและสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการวิ่งหนัก ๆ ในอากาศที่ร้อนเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการ Heat Stroke ได้

อีกเรื่องที่สำคัญคือการหมั่นทำความสะอาดใบหน้าของหมาปั๊ก ไม่ว่าจะเป็น ใบหู รอบดวงตา หรือรอยย่นบนหน้า ซึ่งบอบบางและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เจ้าของจึงควรน้ำผ้าชุบน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติเช็ดใบหน้าของปั๊ก แล้วตามมาด้วยผ้าแห้งเพื่อไม่ให้ชื้นอยู่เสมอ แถมยังเป็นการลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกายปั๊กได้อีกด้วย

ราคาหมาพันธุ์ปั๊ก

เมื่อคุณคิดว่าหมาปั๊ก คือหมาพันธุ์ที่ใช่สำหรับคุณแล้ว เรามาดูเรื่องราคากันดีกว่า ราคาสำหรับสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก จะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และแหล่งเพาะพันธุ์พวกมัน ส่วนมากจะอยู่ที่ช่วงราคา 5,000 – 20,000 บาท สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าต้องการที่จะเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ วันนี้ Yora ได้เตรียม ลิสต์ฟาร์มในประเทศไทย ที่มีทั้งปั๊กราคาไม่เกิน 5,000 และทั้งปั๊กราคาแพง มาให้เพื่อน ๆ ได้ไปเลือกซื้อน้องมาเลี้ยงกันได้เลย

หลังจากทำความรู้จักหมาปั๊กมากันสักพักแล้ว ทาสหมาหลาย ๆ คนอาจจะเข้าสู่ช่วงตัดสินใจแล้วว่าจะรับน้องหมาสายพันธุ์นี้มาเลี้ยงดีหรือไม่ เหมาะกับไลฟ์สไตล์เราหรือเปล่า ดังนั้นปัจจัยสำคัญในการรับน้องหมาสายพันธุ์ปั๊กมาเลี้ยง คงหนีไม่พ้น เรื่องเวลา การเอาใจใส่ ซึ่งหมาปั๊กถูกเพาะพันธุ์เป็นสัตว์คู่ใจ มีนิสัยติดเจ้าของ จึงเหมาะกับทาสหมาที่มีเวลาในการเลี้ยงดูน้อง ๆ มากเป็นพิเศษ ส่วนสถานที่เลี้ยงดูนั้นควรเป็นสถานที่ปิด อยู่ในบ้านที่ร่มรื่น เนื่องจากร่างกายของหมาปั๊กไม่เหมาะกับอากาศร้อนชื้น และที่สำคัญสำหรับน้องหมาปั๊กที่แพ้ง่ายแล้ว Yora อาหารสุนัขจากโปรตีนแมลงของเรา เป็นอาการสุนัขเกรด Holistics นำเข้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่คอยบำรุงสุขภาพปั๊กให้แข็งแรง แถมอร่อย กินง่าย แถมยังดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *