Category: สัตว์ที่มีสีสันต์สวยงาม

นกกระเรียนมงกุฎแดง (Red-crowned crane) ชื่อวิทยาศาสตร์: Grus japonensis เป็นนกกระเรียนขนาดใหญ่ที่หายากเป็นอันดับสองของโลกในบรรดานกกระเรียนทุกสายพันธุ์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก นกชนิดนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภและความซื่อสัตย์ มีความสูงถึง 150-158 เซนติเมตร เมื่ออยู่ในถิ่นอาศัยธรรมชาติตามหนองบึง จะพบเห็นตัวได้ง่ายและเด่นชัด เมื่อโตเต็มวัย ขนทั้งตัวจะเป็นสีขาวหิมะ ด้านบนส่วนหัวจะเป็นผิวหนังสีแดง ผิวหนังส่วนนี้จะเป็นสีแดงสว่างขึ้นเวลาโกรธหรือตื่นเต้น เพศผู้มีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม จัดว่าเป็นนกกระเรียนที่มีน้ำหนักมากที่สุด ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน นกกระเรียนมงกุฎแดงจะอาศัยอยู่ในไซบีเรีย ช่วงนี้ไข่ที่วางไว้จะฟักออกมาเป็นตัว ปกติแล้วนกกระเรียนชนิดนี้จะวางไข่ 2 ฟอง และมักจะเหลือรอดจนฟักเป็นตัวได้เพียงฟองเดียว เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง จะอพยพเป็นฝูงลงใต้สู่เกาหลี จีน และประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เพื่อหาถิ่นอาศัยในระหว่างฤดูหนาว แต่มีนกกระเรียนฝูงหนึ่งที่จะอาศัยอยู่ในเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ตลอดทั้งปี นกกระเรียนชนิดนี้กินสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก สัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลัง แมลง และพืชที่มีอยู่ในหนองบึงเป็นอาหาร ถิ่นอาศัยอาจมีทั้งหนอง บึง ริมฝั่งแม่น้ำ ทุ่งนา หรือที่ใดก็ตามที่มีแหล่งน้ำและอาหาร นกกระเรียนชนิดนี้มีจำนวนประชากรในธรรมชาติเพียง 2750 ตัว จึงถือว่าเป็นนกชนิดหนึ่งที่อยู่ในภาวะถูกคุกคาม

 ปลาเทวดา  มีชื่อสามัญว่า  Angel  Fish   เป็นปลาสวยงามน้ำจืดที่ได้รับความนิยมมานานแล้วเช่นกัน   มักนิยมเลี้ยงในตู้กระจกและมีการตกแต่งหินประดับขนาดใหญ่   หรือขอนไม้   เนื่องจากจะช่วยให้ปลาเทวดาแลดูเด่นมากขึ้น   โดยปลาจะชอบว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆกับก้อนหินและขอนไม้   และมักจะว่ายน้ำช้าๆพร้อมกับกางครีบต่างๆอยู่ตลอดเวลา   ทำให้แลดูสง่างามมาก   เป็นปลาที่มีนิสัยรักสงบ   ไม่ไล่ทำร้ายกันหรือไล่รบกวนปลาชนิดอื่น   ปกติชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง   ยกเว้นเมื่อจะแพร่พันธุ์วางไข่จะแยกตัวออกไปเป็นคู่   สามารถเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่นๆในตู้เดียวกันได้ดี   จัดเป็นปลาสวยงามที่มีราคาดีชนิดหนึ่ง   และสามารถขายได้ตลอดปี 1 ประวัติของปลาเทวดา                                ปลาเทวดามีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้   แถบลุ่มน้ำอเมซอนและแม่น้ำโอริโนโก(Amazon  and  Orinoco  River)   ในประเทศเวเนซูเอลา   และบราซิล   มักชอบอาศัยอยู่ตามบริเวณที่น้ำไหลไม่แรงมากนัก   และมีพรรณไม้น้ำมาก   อาหารธรรมชาติของปลาชนิดนี้  ได้แก่  ตัวอ่อนแมลงน้ำ   ลูกน้ำ   ไรน้ำ   และแพลงตอนสัตว์   เป็นปลาที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศได้ดี   โดยเฉพาะถ้าอากาศเป็นพิษปลาจะตายได้ง่าย   ในสมัยก่อนจึงนำปลาเทวดาไปใช้เป็นตัวทดสอบก๊าซพิษในอุโมงค์เหมืองแร่   โดยจะหย่อนโถใส่ปลาเทวดาลงไปก่อน   แล้วดึงขึ้นมาถ้าปลาตายแสดงว่าในอุโมงค์มีก๊าซพิษ   แต่ถ้าปลาไม่ตายแสดงว่าปลอดภัยคนจะลงไปทำเหมืองได้   ซึ่งในธรรมชาติพบปลาเทวดาอยู่  3  ชนิด   2 ลักษณะรูปร่างของปลาเทวดา                                  ปลาเทวดามีลำตัวแบบแบนข้าง   ความกว้างและความยาวของลำตัวมีความยาวเกือบเท่ากัน   ครีบหลังและครีบก้นแผ่ขยายออกและค่อนไปทางหาง   ครีบท้องมีลักษณะเป็นเส้นยาว   ตากลมโต   ปากขนาดเล็ก   ลำตัวมีสีเงินแกมเทาและมีลายดำพาดขวางลำตัว  4 – 5  แถบ               เนื่องจากเป็นปลาที่ได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ทำให้มีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย และจากการเพาะเลี้ยงและคัดพันธุ์   ทำให้เกิดสายพันธุ์ (Variety)  ใหม่ๆและมีการตั้งชื่อต่างๆอีกหลายชื่อ   เช่น ปลาเทวดาเงิน (Silver  Angelfish)   ปลาเทวดาดำ   (Black  Angelfish)   ปลาเทวดาลายม้าลาย  (Zebra  Angelfish)   ปลาเทวดาลายหินอ่อน (Marble  Angelfish) ปลาเทวดาสีเทา  (Gray  Angelfish)   ปลาเทวดาสีชอกโกเลต  (Chocolate  Angelfish)  ปลาเทวดาลายดำครึ่งตัว(Half Black  Angelfish)   ปลาเทวดาขาว (White  or  Ghost  Angelfish)   ปลาเทวดาทอง (Gold  Angelfish)   ปลาเทวดาลายจุด (Spotled  Angelfish) และ Koi  Angelfish ถึงแม้ปลาเทวดาจะเป็นปลาจากต่างประเทศ แต่นักเพาะเลี้ยงปลาสวยงามในบ้านเราก็สามารถดำเนินการเพาะพันธุ์   และผลิตลูกปลาเทวดาชนิดต่างๆภายในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก                                   ภาพที่ 1ลักษณะภายนอกของปลาเทวดา    3 การจำแนกทางอนุกรมวิธาน                             Frank (1969)  ได้จัดลำดับชั้นของปลาเทวดาไว้ดังนี้                 Class                    :  Osteichthyes                   Order                 :  […]

เป็ดแมนดาริน สัญลักษณ์ที่แสดงถึง รักแท้ สัตว์นั้นหลายตัวมีพฤติกรรมที่มนุษย์ไม่น่าเลียนแบบเท่าไรนัก แต่บางตัวกลับมีพฤติกรรมบางอย่างน่าชื่นชมมาก อย่างสุนัขเองก็ขึ้นชื่อเรื่องนิสัยความซื่อสัตย์ มันพร้อมจะจงรักภักดีต่อเจ้านายของมันแบบไม่มีข้อแม้อะไรเลย หรือแมวอาจจะเป็นสัตว์ที่อินดี้ คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น บอกให้หมอบจะกระโดด บอกให้กระโดดมันเดินหนี อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเด่นเหล่านี้กลายเป็นตัวแทนของสัตว์เหล่านั้นเลย นอกจากหมาแมวแล้วมีสัตว์ตัวไหนมีพฤติกรรมเด่นอีกบ้าง เป็ดแมนดาริน สัตว์ตัวนี้เป็นอย่างไร สัตว์ที่หยิบมาแนะนำวันนี้คือ เป็ดแมนดาริน เป็ดตัวนี้เอาแค่ลักษณะทางกายภาพก็มีความโดดเด่นมากกว่าเป็นตัวอื่นแล้ว จุดเด่นของมันเป็นเรื่องขนที่มีความสวยงาม เวลามันบินอาจจะเห็นไม่ชัดเท่าไร แต่พอมันลอยตัวอยู่เหนือน้ำนั่นแหละมันจะแสดงความโดดเด่นกว่าเป็น นกน้ำสายพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว ความสวยของมันทำให้ถูกตั้งชื่อว่า เป็ดแมนดาริน ดั่งคำว่า แมนดาริน ที่มักจะเอาไปต่อท้ายชื่อโรงแรม ร้านอาหารแบบที่เราได้ยินนั่นเอง ถ้าพูดถึงคำว่า “เป็ด” ขึ้นมา เพื่อนๆหลายคนนึกภาพเป็นยังไงกันคะ ใช่ตัวขาวๆ ปากเหลืองๆ หรือเปล่าเอ่ย วันนี้แอดจะพาทุกท่านไปเปิดโลก ทำความรู้จักกับเป็ดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนกที่สวยที่สุดในโลก เอ๊ะ สรุปเป็นเป็ดหรือเป็นนกกันแน่ จะสวยขนาดไหน ไปทำความรู้จักกับน้องเพิ่มขึ้นกันดีกว่าค่ะ ถิ่นกำเนิดและประวัติความเป็นมา เป็ดแมนดาริน ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Aix galericulata เป็นนกที่อยู่ในวงศ์เดียวกับนกเป็ดน้ำ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำอุสซูรี บริเวณตอนเหนือของประเทศจีน ลักษณะทางกายภาพ มีลักษณะเด่น คือตัวผู้จะมีสีสันและลวดลายที่สวยงามมาก เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ จะมีสีสันที่สวยงามและชัดเจน เรียกว่าเปล่งออร่าเลยก็ว่าได้  โดยช่วงตั้งแต่หน้าผากไล่ไปจนถึงหางนั้น […]

คาคาโป นกประหลาดที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ อ้วน อายุยืนและน่าเกลียดที่สุดในโลก ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน สมาคมอนุรักษ์สัตว์น่าเกลียด (Ugly Animal Preservation Society) ได้มีการจัดอันดับสัตว์ที่น่าเกลียดที่สุดในโลก อันดับหนึ่งคงไม่มีใครแปลกใจเพราะเจ้าปลา “บล็อบฟิช” ชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คืออันดับรองลงมากลับเป็น “นกแก้วคาคาโป” อย่างไม่น่าเชื่อ นกแก้วคาคาโป (Kakapo) หรือ นกแก้วฮูก (Owl Parrot) เป็นสัตว์ท้องถิ่นของประเทศนิวซีแลนด์ที่ถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธ์ โดยหลงเหลืออยู่บนโลกแค่เพียงร้อยกว่าตัวเท่านั้น ถ้าดูจากรูปร่างลักษณะของมันก็ไม่น่าเชื่อว่านกแก้วชนิดนี้จะถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่น่าเกลียดอันดับ 2 และถือเป็นนกที่น่าเกลียดที่สุดในโลก แต่ชาวเน็ตที่เห็นภาพของมันก็สงสัยว่าทำไมมันถึงติดอันดับไปได้ นกแก้วคาคาโปถือเป็นเจ้าของสถิติ “ที่สุด” ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่ามันจะเป็นนกแก้วชนิดเดียวในโลกที่บินไม่ได้เนื่องจากโครงสร้างปีกของมันที่ไม่เอื้ออำนวยให้มันบิน และยังเป็นนกแก้วที่อ้วนและมีน้ำหนักตัวมากที่สุดในโลก โดยมันมีความสูงประมาณ 59-64 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวมากถึง 4 กิโลกรัม ส่วนอายุของนกแก้วคาคาโปยังยืนยาวเอามาก ๆ โดยถือเป็นหนึ่งในนกที่มีอายุขัยยาวนานที่สุดในโลก มีรายงานระบุว่าคาคาโปอาจมีอายุยืนได้ถึง 100 ปีเลยทีเดียว วิวัฒนาการของนกแก้วคาคาโปถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะมันวิวัฒนาการมาบนเกาะที่โดดเดี่ยวเล็ก ๆ จำนวน 4 เกาะบริเวณนอกชายฝั่งนิวซีแลนด์ โดยมีบรรพบุรุษที่แตกต่างจากนกแก้วชนิดอื่น หลังจากที่นิวซีแลนด์ได้แยกตัวออกจากทวีปกอนด์วานานกแก้วคาคาโปก็ถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 70 ล้านปีก่อน และนั่นทำให้มันเป็นหนึ่งในนกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย ในอดีตที่ผ่านมา […]

ซีบร้าฟินซ์มีขนาดเล็ก แต่ไม่ใช่นกฟินช์ที่มีขนาดเล็กเล็กที่สุด ชื่อซีบร้าฟินซ์ มาจากลายทางม้าลายที่พาดผ่านคอ อก โดยเฉพาะจากหางจะมีสีขาวดำ ตัวผู้สีมีสีเทาและมีสีดำที่ตา มีสีแดงสดที่แก้ม และจะงอยปากสีแดงสดเมื่อโตเต็มที่ตัวเมียจะมีสีจะงอยปากที่อ่อนกว่า คือสีส้มอ่อน อาหารของนกเจ็ดสี ส่วนใหญ่จะเป็นเมล็ดพืชขนาดเล็กมีหลายชนิด เช่น มิลเล็ต ข้าวไรน์ ข้าวฟ่างแดง – ดำ เป็นต้น อาหารที่ชอบมากของฟินช์เจ็ดสีก็คือ มิลเล็ตสเปรย์ ซึ่งมีลักษณะเป็นช่อยาว ผู้เลี้ยงควรนำไปแขวนไว้ภายในกรง เพื่อให้นกได้แทะกินอยู่เสมอ อัตราส่วนของอาหารที่จะผสมให้กับนกกินควรประกอบไปด้วย มิลเล็ต ข้าวไรน์ ข้าวฟ่างแดง ดำ ไนเจอร์(ให้โปรตีน) ผสมในอัตราส่วน 2 : 1 : 1 : 1 : 0.50 ซีบร้าฟินซ์เป็นนกฟินซ์ที่สวยงามอีกชนิดหนึ่ง ลักษณะโครงสร้างของร่างกายจะคล้ายฟินซ์เจ็ดสี ต่างกันตรงที่สีของนก โดยสีดั้งเดิมของนกจะเป็นสีน้ำตาลเทา หน้าอกลายเหมือนม้าลาย (เป็นที่มาของชื่อ) แก้มมีสีสัน ปากมีสีส้มถึงแดง ร้องเพราะ กินน้อย ไม่สกปรกเลอะเทอะ ขยันออกไข่ฟักไข่ เลี้ยงลูกเก่ง ใช้ได้ทั้งปี (ในบ้านเรา) […]

สีฟ้า jay ( Cyanocitta cristata ) เป็นดังกล่าว นกในครอบครัว อีกาพื้นเมืองภาคตะวันออกของทวีปอเมริกา มันอาศัยอยู่ในภาคตะวันออกและตอนกลางของสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ ประชากรทางทิศตะวันออกอาจมีการอพยพ ประชากรที่อยู่อาศัยยังพบในนิวฟันด์แลนด์ แคนาดา; ประชากรการผสมพันธุ์พบได้ทั่วภาคใต้ของแคนาดา ผสมพันธุ์ได้ทั้งไม้เบญจพรรณและต้นป่าสนป่าไม้และพบได้ทั่วไปตามพื้นที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงิน มีอกสีขาวและอันเดอร์พาร์ท และหงอนสีน้ำเงิน มีคอปกรูปตัวยูสีดำรอบคอและมีขอบสีดำด้านหลังหงอน ตัวผู้และตัวเมียมีขนาดและขนนกใกล้เคียงกัน และขนนกก็ไม่ต่างกันตลอดทั้งปี สี่ชนิดย่อยได้รับการยอมรับ นกบลูเจย์กินเมล็ดพืชและถั่วเป็นหลัก เช่นลูกโอ๊คซึ่งอาจซ่อนกินในภายหลัง ผลไม้อ่อน ; และบางครั้งเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก โดยปกติแล้วจะเก็บอาหารจากต้นไม้ ไม้พุ่ม และพื้นดิน และบางครั้งเหยี่ยวแมลงจากอากาศ นกบลูเจย์สามารถก้าวร้าวกับนกตัวอื่นได้ บางครั้งพวกมันบุกรัง และตัดหัวนกตัวอื่น  มันสร้างรังแก้วเปิดบนกิ่งก้านของต้นไม้ ทั้งสองเพศมีส่วนร่วม คลัตช์อาจเป็นไข่สองถึงเจ็ดฟองซึ่งมีสีน้ำเงินหรือสีน้ำตาลอ่อนมีจุดสีน้ำตาล ลูกเป็นaltricialและตัวเมียจะครุ่นคิดเป็นเวลา 8-12 วันหลังจากฟักออกจากไข่ พวกเขาอาจอยู่กับพ่อแม่ได้หนึ่งถึงสองเดือน ชื่อเจย์มาจากเสียงของนกที่ส่งเสียงดัง พูดเสียงดัง และถูกนำไปใช้กับนกอื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักอยู่รวมกันเป็นฝูง เจย์ยังเรียกjaybirds คำอธิบาย นกบลูเจย์มีขนาด 22–30 ซม. (9–12 นิ้ว) จากบิลถึงหาง และหนัก 70–100 กรัม (2.5–3.5 ออนซ์) โดยมีปีกกว้าง 34–43 ซม. (13–17 […]

นก ถือว่าเป็นสัตว์ปีกอีกชนิดหนึ่งที่มีความน่าสนใจมาก ประชากรของนกมีมากกว่าที่เราคิดไว้ อีกทั้งเป็นสัตว์ที่มีความหลากหลายสายพันธุ์มากชนิดหนึ่ง แต่ละสายพันธุ์ต่างก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางกายภาพ นิสัย บางตัวถือว่ามีประวัติศาสตร์ของมันด้วยวันนี้เราจะมาแนะนำนกชนิดหนึ่งชื่อว่า พัฟฟิน นกชนิดนี้มีลักษณะอย่างไร นิสัยอะไรบ้างเราจะมาแนะนำ นกพัฟฟิน หน้าตาเป็นอย่างไร นกชนิดนี้หลายคนอาจจะนึกถึงชื่อขนม แต่นกตัวนี้ไม่ได้มีเกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งนั้นเลย นกตัวนี้หากนับตามสายพันธุ์จะเรียกว่าเป็นนกทะเลอีกรูปแบบหนึ่ง จุดเด่นของเค้าอยู่ที่จะงอยปากสีส้มสดใสมาก หัวของนกตัวนี้จะมีแถบสีขาวตรงกลางศีรษะจะเป็นสีดำ ส่วนขน ปีกที่เหลือจะเป็นสีดำสนิท ตรงกลางลำตัว ลากจากคอถึงท้องจะเป็นสีขาวล้วน เท้าจะเป็นพังผืดคล้ายกับเท้าเป็ด เป็นนกอีกชนิดหนึ่งที่เป็นสัตว์สำคัญของระบบนิเวศริมทะเล ริมฝั่ง ริมหน้าผา ชนิดของนกพัฟฟิน นกพัฟฟินนั้น เป็นสัตว์ที่มีความแตกต่างกันไปแต่ไม่ค่อยต่างมากนัก แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม หนึ่งจะเป็นกลุ่มนกพัฟฟินจากแอตแลนติก กลุ่มนี้จะพบได้จากพื้นที่แอตแลนติกเหนือ จากทางฝั่งยุโรปตั้งแต่ใต้ไปถึงเหนือเลย ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส, เกาะอังกฤษ, ไอซ์แลนด์, กรีนแลนด์, นอร์เวย์ กลุ่มนี้มีนิสัยการอพยพหนีหนาวไปทางโมร็อกโก จนถึงนิวยอร์ก อเมริกาโน่นเลย จุดเด่นทางกายภาพของนกชนิดนี้อยู่ที่จะงอยปาก ด้านปลายแหลมจะเป็นสีส้ม แล้วไล่ระดับสีเข้ามาหาตัวจนกลายเป็นสีเหลืองอ่อนตรงกลางริมฝีปากทั้งบนและล่างจะเป็นแทบสีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนลำตัว ปีก ขน ขา เท้า เหมือนกัน สองกลุ่มนกพัฟฟินฮอร์น ตัวนี้ถิ่นอาศัยอยู่ที่ไซบีเรีย, อลาสก้า ตัวนี้จะอยู่ในอากาศเย็นแต่หากเป็นช่วงฤดูหนาวจะหลบหนาวไปทางแคลิฟอร์เนีย […]

นกคาสโซวารี (Southern Cassowary) ชื่อวิทยาศาสตร์ Casuarius casuarius เป็นสัตว์ปีกแต่บินไม่ได้ อยู่ในกลุ่มเดียวกับนกกระจอกเทศ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย ลักษณะขาสั้น และแข็งแรง มี 3 นิ้ว ซึ่งต่างจากนกกระจอกเทศที่มี 2 นิ้ว ทั้ง 2 เพศมีลักษณะเหมือนกัน แต่ตัวเมียใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย ความสูงประมาณ 100 ซม. น้ำหนักประมาณ 85 กก. ขนทั่วทั้งตัวลักษณะคล้ายเส้นผมไม่เหมือนขนนกทั่วๆไป เป็นนกที่ไม่มีหางและปีกมีขนาดเล็กมาก บนหัวจะมีสันกระดูกดูโดดเด่นสะดุดตา หัวและคอไม่มีขน หนังจะเป็นสีแดง ฟ้า ม่วง และเหลือง เรียกว่าสีสันสวยงามฉูดฉาดสะดุดตาเห็นครั้งเดียวก็จำได้ มักทำรังวางไข่บนพื้นดิน จึงทำให้พ่อ-แม่นกจะดุมาก ในฤดูทำรังวางไข่ ออกไข่ชุดละ 3-6 ฟอง ไข่มีสีเขียวเข้ม ตัวผู้จะเป็นผู้ฟักไข่ประมาณ 49-56 วัน ลูกนกที่ออกมาใหม่ๆจะมีลำตัวลายๆตามยาว พ่อแม่นกจะช่วยกันเลี้ยงลูก น.สพ.เกษตร สุเตชะ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูล นกชนิดนี้มีแรงเตะมหาศาลและตามมาด้วยเล็บนิ้วตีน 3 […]

ทำความรู้จัก “นกกระตั้วกาล่า” นกสีชมพูตัวเล็ก เลี้ยงง่าย! เอกลักษณ์อันเป็นพิเศษสำหรับนกกระตั้วก็คือการมีขนที่ตั้งอยู่บนหัว และสามารถเลียนเสียงมนุษย์ได้ อีกหนึ่งสายพันธุ์นกที่เป็นที่นิยมเลี้ยงก็คือ นกกระตั้วกาล่า นั่นเองค่ะ เป็นนกที่มีขนสีชมพูกุหลาบตลอดทั้งอกและท้อง ส่วนหัว ปีก และหางเป็นสีเทาหรือเงิน สวยสะดุดตาอย่างมาก เป็นนกที่สุภาพเรียบร้อยและเป็นมิตรกับเจ้าของมากอีกด้วย ซึ่งนกกระตั้วกาล่ามีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลียค่ะ เรามาทำความรู้จักกับนกชนิดนี้กันค่ะ นกกระตั้วกาล่า นี้จะมีลักษณะคล้ายนกแก้ว มีปากคล้ายกับคีมและมีถึง 21 สายพันธุ์ด้วยกัน แต่ละพันธุ์ก็มีสีและลักษณะที่แตกต่างกันไป เอกลักษณ์อันเป็นพิเศษสำหรับนกกระตั้วก็คือการมีขนที่ตั้งอยู่บนหัว นกชนิดนี้มีลิ้นจึงสามารถเลียนเสียงมนุษย์หรือเสียงอื่นๆ ได้ พบมากในประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศปาปัวนิวกินี ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น โดยเฉลี่ยนกกระตั้วจะมีอายุราว 20 – 30 ปี แต่ในชนิดที่มนุษย์นำมาเลี้ยงนั้นจะสามารถอยู่ได้ถึง 60 – 80 ปีพอๆ กับมนุษย์เลยทีเดียว สาเหตุที่มนุษย์ชอบนำนกกระตั้วมาเลี้ยงนอกจากจะสามารถพูดเลียนเสียงเหมือนมนุษย์ได้แล้ว นกชนิดนี้ยังมีความขี้อ้อนและขี้เล่น ฉลาด มีสีสันที่สดใส สามารถสอนให้เลียนแบบพฤติกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย เป็นเสน่ห์ทำให้มนุษย์หลงใหลในนกกระตั้ว นกชนิดนี้มีจะงอยปากที่แข็งแรงมาก หากจะนำมาเลี้ยงควรหากรงที่แข็งแรงมากกว่าปกติ เป็นนกที่ไม่ชอบอยู่เฉย มีความคล่องแคล่วและชอบเคลื่อนไหวตลอดเวลา ดังนั้นในกรงควรทำที่ไว้ให้ปีนป่ายด้วย นอกจากนั้นนกชนิดนี้ยังมีนิสัยที่จะรักและผูกพันกับเจ้าของเป็นอย่างมาก ทำให้เจ้าของต้องเอาใจใส่และเล่นด้วยอยู่เสมอ […]

นกกระตั้ว หรือ นกคอกคาทู : Cockatoo  เป็นนกประเภทปากคีม มีหลายสกุล ส่วนมากจะมีสีขาว บางชนิดมีสีเหลืองอ่อนแซมเล็กน้อย มีหงอน มีลิ้นและสามารถสอนให้เลียนเสียงได้เหมือนนกแก้ว โดยที่ชื่อสามัญที่ว่า “Cockatoo” เป็นภาษามาเลย์แปลว่า “คีมใหญ่” พบในแถบอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, นิวกินี, หมู่เกาะโซโลมอน และ ออสเตรเลีย ชนิดที่มนุษย์จับมาเลี้ยงนั้นมีราคาสูง นกกระตั้วที่อยู่ตามธรรมชาติจะมีอายุขัยเพียง 20-30 ปีเท่านั้น แต่นกกระตั้วที่มนุษย์นำมาเลี้ยงจะมีอายุยืนถึง 60-80 ปี คำว่า Cockatoo นั้นมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จากคำว่า “Kakatuwah” เป็นภาษามาเลย์ แปลว่า “พ่อเฒ่า” หรือ “คีมใหญ่” จากลักษณะปากของมันที่แข็งแรงและมีแรงกัดมหาศาล สามารถทำลายสิ่งต่าง ๆ ได้แม้กระทั่งเหล็กบาง ๆ เดิมทีนกกระตั้วถูกจัดเป็นหนึ่งในวงศ์ย่อย Cacatuinae ของวงศ์นกแก้ว Psittacidae โดย จอร์จ โรเบิร์ต เกรย์ นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ในปี ค.ศ. […]